
ประเด็นคือ- ตร.สกลนคร ยิงสกัดรถขนยาบ้าจากชายแดนนครพนม ยึดยาบ้าเกือบ 20,000 เม็ด ผู้ต้องหาหลังถูกจับยกมือไหว้ขอโทษ ‘ผมผิดไปแล้ว’ ส่วนญาติมาด้วย 2 คน หวิดซวย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค. 60) ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ อ.เมือง จ.สกลนคร นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผวจ.สกลนคร พร้อมตัวแทนกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ชุดจับกุมประกอบด้วยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ฝ่ายปกครองจังหวัดสกลนคร และทหารมณฑลทหารบกที่ 29 ร่วมกันสอบสวนผู้ต้องหารับจ้างขนยาบ้าให้กับลูกค้า ลักษณะเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จ.สกลนคร จ.อุดรธานี และ จ.กาฬสินธุ์

ผู้ต้องหาคือ นายวีระ แก้วสอนดี อายุ 49 ปี เป็นชาว ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ถูกจับได้ขณะขับรถ ยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีน้ำตาล ทะเบียน บย 8764 สกลนคร พร้อมซุกซ่อนยาบ้าไว้ในถุงพลาสติกใส มัดแยกเป็นห่อๆ ละ 3 มัด รวม 9 มัด เป็นยาบ้าเม็ดสีส้มประทับตราอักษรวาย จำนวน 18,000 เม็ด มาเพื่อเตรียมนำไปส่งลูกค้าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์
แต่ระหว่างทางเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้น ผู้ต้องหาได้เร่งเครื่องรถยนต์หลบหนี จนชนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียหายหลายคัน ก่อนจะถูกยิงสกัดที่ล้อรถไปไหนไม่ได้ จนมุมบริเวณ ถ.สายพังโคน-วาริชภูมิ ก่อนถึงหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร พื้นที่ อ.พังโคน จ.สกลนคร
จากนั้นผู้ต้องหาได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ทัน ส่วนในรถมีผู้โดยสารนั่งมาด้วย 2 คน เป็นพี่สาวและหลานเขยของผู้ต้องหาที่อาศัยนั่งรถมาจะไปธุระที่ตัว จ.อุดรธานี เบื้องต้นสอบสวนพบว่า ทั้งสองไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นการลักลอบขนยาบ้าในครั้งนี้

ซึ่งนางวีระ ผู้ต้องหาหลังถูกจับกุม ได้แต่โอดครวญว่าตนเองหลงผิดไปแล้ว พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ‘ผมผิดไปแล้ว’ พร้อมรับสารภาพว่า ตนเองได้ไปรับยาบ้าดังกล่าวมาจากหญิงชาวลาว ชื่อ ‘อึ่ง’ นำไปส่งให้กับลูก ค้าที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยนำยาบ้ามาจากพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่เครือข่ายนำมาทิ้งไว้ในจุดนัดพบริมถนน พร้อมเงินค่าจ้างครั้งละ 4-5 หมื่นบาท ก่อนจะลำเลียงไปส่งลูกค้าตามนัดหมาย และส่งของโดยโยนทิ้งไว้ริมถนน สารภาพทำมาแล้ว 3 ครั้ง
นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผวจ.สกลนคร กล่าวว่า ช่วงนี้ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดความมั่นคง 3 ฝ่าย มีการคุมเข้มเส้นทางจากจังหวัดที่ติดกับแนวชายแดน และใช้พื้นที่ จ.สกลนคร เป็นทางผ่านลำเลียงสิ่งผิดกฎ หมายเข้าสู่จังหวัดชั้นใน โดยคนร้ายจะอาศัยช่วงปลายปีที่มีเข้าสู่ปีใหม่ที่ประชาชนเดินทางสัญจรมากขึ้น และการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นเครือข่ายยาเสพติดสำคัญ ที่มาเคลื่อนไหวในเขต จ.สกลนคร จ.อุดรธานี และ จ.กาฬสินธุ์ โดยการใช้เส้นทางลัดเลาะเชื่อมระหว่างอำเภอ เพื่อหลบหลีกเจ้าหน้าที่









