
ทนายความ บูม บิทคอยน์ ขอเวลารวบรวมเอกสารชี้แจงบัญชีการเงิน ขณะที่ ตร.เรียก พ่อ-แม่ มาสอบสวนเบื้องต้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันการโกงบิดคอยน์ และวันนี้ถึงคิว ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้ข้อมูล
วันที่ 28 ส.ค. 2561 ความคืบหน้าคดีโกงเงินบิทคอยน์ 797 ล้านบาท พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า วันนี้จะออกหมายเรียกนายธรรมนัส พรหมเผ่า หรือ ผู้กองมนัส เข้าให้ข้อมูลการรับโอนหุ้นบิทคอยน์ และพรุ่งนี้ (29 ส.ค.61) จะออกหมายเรียกอีก 5 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหร่วมกันฉ้อโกง คือ นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม, นายปริญญา จารวิจิต, นายธนสิทธิ์ จารวิจิต นายชาคริส อาห์มัด ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท เอ็กเปย์ และ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ
พ.ต.อ. ชาคริต กล่าวว่า การติดตามตัวนายปริญญาที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา หากกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้น และ อัยการมีความเห็นทางคดีจะประสานตำรวจสากลออกหมายแดงเพื่อติดตามตัว และดำเนินการขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการปราบปราม
ก่อนหน้านี้นายวิสิทธิ์ จารวิจิต และนางเลิศฉัตรกลม จารวิจิต บิดาและมารดาของนายบูม ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกงบิทคอยน์มูลค่า 797 ล้านบาท เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามหลังครบกำหนดตามหมายเรียก ครั้งที่ 1 โดยมาให้ปากคำเรื่องเส้นทางการเงิน และการรับโอนเงินจากนายปริญญา ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ ซึ่งเป็นลูกชายคนโต สำหรับหมายเรียกมาให้ปากคำในคดีนี้มีทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย นายวิสิทธิ์ นางเลิศฉัตรกลม และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หรือผู้กองธรรมนัส นอกจากนี้ยังมีหมายเรียกผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกง 5 ราย ภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยนายจิรัชพิสิษฐ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้พนักสอบสวนได้เรียกพ่อและแม่มาให้ปากคำในฐานะพยานเท่านั้น ในส่วนของตนต้องมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 29 สิงหาคม นี้เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกง

ด้านนายภูดิท โทณผลิน ทนายความ เปิดเผยว่า ลูกความได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน โดยชี้แจงไปว่าครอบครัวจารวิจิตรได้ประกอบธุรกิจมานานหลายปีทั้งลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ อีกหลายธุรกิจ ที่ผ่านมามีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท ส่วนเงินจำนวน 90 ล้านบาทที่พนักงานสอบสวนแจ้งว่ามีการรับโอนจากนายปริญญา บุตรชายคนโตนั้น ลูกความยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง เงินจำนวนดังกล่าวได้มาจากการทำธุรกิจของครอบครัว และหลังจากนี้ตนและลูกความจะกลับไปรวบรวมเอกสารข้อมูลทางธุรกิจและบัญชีการเงินมาประกอบคำชี้แจงให้พนักงานสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง









