
ธนาธร เสนอไอเดีย แยกรางรถไฟฟ้า – รถไฟ ให้รัฐเป็นเจ้าของ แต่การเดินรถไฟฟ้า – รถไฟ เปิดให้เอกชนแข่งขัน ที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในหลายๆ ด้าน อีกทั้งยังสามารถรักษาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ให้ยังคงเป็นของรัฐ
เมื่อเวลา 17.55 น. วันที่ 15 ก.ค. 61 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อดีตรองประธานกรรมการกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ได้โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถึงเเนวทางการแก้ปัญหาบีทีเอส และการรถไฟ ด้วยการปลดปล่อยศักยภาพของราง รางเป็นของรัฐ – ตู้รถเป็นของเอกชน โดยมีเนื้อหาดังนี้
“เดินทางไปญี่ปุ่นรอบนี้ผมใช้บริการรถไฟเยอะมาก ระหว่างทางก็คิดเรื่องระบบรถไฟของไทยไปด้วย ว่าทำไมไทยกับญี่ปุ่นซึ่งเริ่มต้นพัฒนาระบบรางในช่วงเวลาเดียวกัน ถึงได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันเหลือเกินในปัจจุบัน และผมก็พบว่าปัญหาระหว่างประสิทธิภาพและการผูกขาดการให้บริการสาธารณะ เป็นปัญหาใหญ่ ที่การแก้ปัญหาไม่ยากอย่างที่คิด
“หากการเป็นเจ้าของสาธารณูปโภคพื้นฐานอยู่ในมือของรัฐ ประสบการณ์จากการรถไฟไทย บอกเราว่า การพัฒนานวัตกรรมจะตามไม่ทันโลก ไม่มีบริการที่ประทับใจลูกค้า และการบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ
“แต่หากเรายกการเป็นเจ้าของสาธารณูปโภคพื้นฐานให้เอกชน มีหลักฐานจากหลายประเทศว่า การผูกขาดจะนำมาซึ่งการขึ้นราคา และการไม่ใส่ใจในผู้บริโภค
“เราสามารถแก้ไขปัญหาความกำกวมเรื่องการบริหารบริการพื้นฐานซึ่งควรเป็นของรัฐได้ ด้วยการแยกรางรถไฟให้รัฐเป็นเจ้าของ แต่การเดินรถไฟต้องเปิดให้เอกชนแข่งขันกัน
“การแข่งขันเช่นนี้จะนำมาซึ่งประสิทธิภาพ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถรักษาให้รัฐเป็นเจ้าของสาธารณูปโภคที่ให้บริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้

“บีทีเอสและเอ็มอาร์ที ควรเป็นเพียงผู้ให้บริการเดินรถไฟที่ลงทุนในตัวรถไฟ รถไฟของทั้งบีทีเอสและเอ็มอาร์ที ถูกออกแบบให้วิ่งบนรางของอีกฝ่ายได้อยู่แล้ว แก้ไขระบบอาณัติสัญญาณ ทำจุดเชื่อมให้รางรถไฟของทั้งสองบริษัทเป็นเส้นเดียวกัน ดึงรางของทั้งสองบริษัทเป็นของรัฐ เปิดให้เอกชนรายอื่นที่สนใจเดินรถเข้ามาใช้ในเงื่อนไขเดียวกัน กำหนดให้อัตราค่าบริการเท่ากัน เท่านี้เราก็ได้การแข่งขันด้านการคมนาคมที่ไม่สูญเสียความเป็นเจ้าของของรัฐในกรุงเทพฯ ได้
“หลักการเดียวกันต้องประยุกต์ใช้กับการรถไฟแห่งประเทศไทยด้วย กฟท.ต้องกลายเป็นเจ้าของรางรถไฟ และปล่อยให้เอกชนรายอื่นเข้ามาเป็นผู้ให้บริการวิ่งรถไฟ เปิดรางให้ใครก็ได้ที่พร้อมลงทุน คิดราคาในอัตราที่เท่ากันต่อผู้ประกอบการทุกคน
“ผู้ประกอบการเดินรถจะแข่งขันกันเรื่องเวลา นวัตกรรมในตัวรถและในบริการ ความปลอดภัย และในด้านราคา ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์จากการแข่งขันกันเช่นนี้ ก็คือประชาชนผู้บริโภค
“เราอาจเห็นผู้ประกอบการรถทัวร์หรือสายการบิน เข้ามาลงทุนในการวิ่งรถไฟ เพื่อทำให้การซื้อบัตรและการเชื่อมต่อระหว่างรถทัวร์ / สายการบิน และรถไฟ เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ
“เราอาจเห็นรถไฟตู้นอนกว้างขวางราคาแพงระยับ ที่มาพร้อมกับอาหารชั้นหรู ความสะดวกสบายครบครัน และการบริการระดับโลก เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวระดับบน
“เราอาจเห็นผู้ประกอบการใหม่ๆ ที่เสนอรถไฟด่วนด้วยการหยุดน้อยสถานี เพื่อเอาใจลูกค้าบางกลุ่ม หรือเสนอบริการเดินรถไฟพร้อมกับบริการเช่าจักรยานไฟฟ้าใต้สถานี โดยคิดค่าบริการรวมกัน
“เราอาจเห็น start-up เกิดขึ้นโดยคนรุ่นใหม่ ที่เบื่อกับบริษัทเดินรถเดิมๆ ลงทุนเปิดบริษัทเดินรถไฟใหม่ที่ระดมทุนผ่าน Crowdfunding หรือ ICO

“นอกจากนี้เรายังสามารถบังคับเงื่อนไขการวิ่งรถไฟและการคมนาคมสาธารณะทุกประเภท (เรือ, รถเมล์, เครื่องบิน, รถไฟ, รถไฟฟ้าในกรุงเทพ) ให้ติดจีพีเอสในทุกยานพาหนะ และเปิดให้ทุกคนนำไปใช้ได้อย่างเสรีและไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงบังคับให้ทุกบริษัทเปิดตารางเที่ยว และราคาของตนเอง กับสาธารณะในรูปแบบเดียวกันที่สมองกลอ่านได้ (Program-Readable)
“ถ้าสร้างฐานข้อมูลชุดนี้ และเปิดให้สาธารณะใช้ได้ เราอาจเห็นคนรุ่นใหม่ใช้ Big Data ชุดนี้สร้าง Startup คิดค้น App ที่เปรียบเทียบการเดินทางด้วยวิธีต่างๆ แล้วเสนอทางเลือกที่ถูก / เร็วที่สุด ให้กับประชาชน อันเป็นการส่งเสริมจิตวิญญาณผู้ประกอบการ และเตรียมสังคมให้พร้อมสำหรับโลกใบใหม่ที่กำลังจะมาถึง
“เหตุผลทางเศรษฐกิจของการให้รัฐเป็นเจ้าของคือ มันไม่สมเหตุสมผลที่จะมีรางรถไฟจากสุขุมวิทไปลาดพร้าวสองราง เราสามารถหารูปแบบการบริหารจัดการสาธารณสมบัติอื่นๆ ได้ ที่นอกเหนือจากการให้รัฐหรือเอกชนรายใดรายหนึ่งผูกขาด และจับผู้ใช้บริการเป็นตัวประกัน
“ปลดปล่อยรางคืนให้กับประชาชน การผูกขาดสร้างมหาเศรษฐีบนความทุกข์ยากของคนจนมามากพอแล้ว พอกันทีกับการผูกขาดในประเทศไทย”
https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/posts/441180032952343
ข้อมูลและภาพจากเพจ Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews









