รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีบทบัญญัติข้อห้ามระบุว่า ผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง ส.ว. หากเคยเป็นรัฐมนตรี จะต้องพ้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี จึงจะเป็น ส.ว. ได้ แต่ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญก็ระบุไว้ด้วยว่า สำหรับสภาวาระแรก ข้อห้ามดังกล่าวจะไม่ถูกนำมาบังคับใช้ ดังนั้นผู้ที่เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จึงสามารถเป็น ส.ว. ได้โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) รัฐมนตรี 15 คนในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคาดการณ์กันว่ารัฐมนตรีทั้ง 15 คน ได้ยื่นใบลาออกเพื่อจะไปรับตำแหน่ง ส.ว.
ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้มีการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของสมาชิกวุฒิสภาไว้ในมาตรา 108 โดยหนึ่งในลักษณะต้องห้ามที่ระบุไว้ใน (6) คือ ผู้จะดำรงตำแหน่ง ส.ว. นั้น ห้าม “เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรี เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี” ดังนั้นแล้วในภาวะปกติ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จะต้องพ้นจากตำแหน่งไปแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะรับการคัดเลือกเป็น ส.ว. ได้
อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้เขียนบทเฉพาะกาลไว้ในมาตรา 269 (2) ด้วยว่า สำหรับสมาชิกวุฒิสภาในวาระแรกนี้ จะไม่มีการนำข้อห้ามเรื่องการต้องพ้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วอย่างน้อย 5 ปีมาบังคับใช้
โดยในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ มาตรา 269 (2) ได้ระบุไว้ว่า ในสภาวาระแรกที่จะถึงนี้ “มิให้นำความในมาตรา 108 ข. ลักษณะต้องห้าม (6) ในส่วนที่เกี่ยวกับการเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาบังคับใช้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา” เฉพาะในส่วนของ ส.ว. ได้รับการสรรหาโดยตรงจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
นั่นหมายความว่า ผู้จะมาตำรงตำแหน่ง ส.ว. ในสภาที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งนี้ แม้ว่าจะเพิ่งลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็สามารถดำรงตำแหน่ง ส.ว. ได้เลยทันทีโดยไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีบทเฉพาะกาลเขียนรองรับเอาไว้แล้ว









