รองนายกฯ “วิษณุ เครืองาม” หารือร่วมกับ กกต. ได้ข้อสรุปหาก “บิ๊กตู่” ตอบรับพรรคการเมือง ยังจัด ครม.สัญจร จัดรายการออกทีวีได้ แต่ต้องระวังไม่พาดพิงคนอื่น ส่วนพรรคการเมืองสามารถนำภาพไปขึ้นป้ายคู่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้
วันที่ 31 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ก่อนหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการปฏิบัติตัวของข้าราชการในช่วงการเลือกตั้งว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะหาหรือเรื่องอะไรกันบ้าง ในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หากตอบรับเข้าเป็นบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าสิ่งที่จะทำได้หรือไม่ได้มีมากน้อยแค่ไหน โดยจะต้องดูสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ว่ายังเป็นข้าราชการการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ และจะมีผลต่อกฎหมายอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามกฎหมายการลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจร จะทำได้หรือไม่ นายณัฏฐ์ กล่าวว่า นายกฯยังสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ เพราะครม.มีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนจะกลายเป็นเรื่องทับซ้อนในการหาเสียงหรือไม่ นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ความเหมาะสมก็เป็นเรื่องหนึ่ง การปฏิบัติตามกฏหมายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ความเหมาะสมบางครั้งก็ไม่ขัดกับข้อกฎหมาย แต่อาจจะไม่เหมาะสมก็ต้องมาดูกัน นอกจากจะมีเรื่องการประชุมครม.สัญจรแล้วก็อาจจะมีเรื่อง การจัดรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ของนายกรัฐมนตรี และการสื่อสารกับสาธารณะผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วย
ต่อมาในช่วงเย็น นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสนำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับลงในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่และการลงพื้นที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย แต่อาจต้องระวังไม่ปฏิบัติต่อบุคคลใดเป็นพิเศษ การจัดรายการศาสตร์พระราชาฯ ทุกวันศุกร์ สามารถทำได้ปกติตามเนื้อหาที่เคยทำ และพรรคการเมืองสามารถนำภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ไปขึ้นป้ายหาเสียงร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ห้ามไปปราศรัย
นอกจากนั้นการพูดคุยกับประชาชนและการให้สัมภาษณ์ต้องระวังไม่ให้ไปกระทบกับพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อป้องกันข้อครหาเป็นผู้คุมกฎและผู้เล่นในตัว รวมทั้งการโพสต์เฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดียที่แม้จะเป็นการดำเนินการโดยส่วนตัวแต่เพื่อความปลอดภัยอาจจะหยุดชั่วคราวจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้งเพราะไม่สามารถควบคุมผู้มาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนได้
