ประเด็นคือ – ตร.เมืองคอน ไล่ล่าพ่อค้ายาบ้าวิ่งหนีจนโรคหอบหืดออกอาการ จึงต้องยอมจำนน จนท.จับพิรุธ พบมีการฝังยาบ้ารอบบ้าน ได้ของกลางเฉียดหมื่นเม็ด
วันนี้ (23 พ.ย. 60) พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง ร่วมกับ พ.ต.ต.สมนึก สุวรรณวงศ์ สว.สส.พร้อมกำลังตำรวจสืบสวน และ อส.ตร.บุกจับกุม นายธวัชชัย ใบระหมาน หรือ บังหิน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/3 หมู่ 4 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้าตราหัวแม่มือ รูปกดไลค์ จำนวน 7,400 เม็ด ฝังอยู่รอบบ้าน พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กระสุนเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 3 บ้านโคกขมิ้น ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายของวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบข่าวจากสายลับว่าจะมีเอเย่นต์ส่งยาบ้าล็อตใหญ่ จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมผู้ต้องหาและแสดงตัวขอตรวจค้น ทันทีที่เห็นรถเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาได้วิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงวิ่งติดตามเป็นระยะทางกว่า 2 กม. แต่ระหว่างทางผู้ต้องหาโยนยาบ้าทิ้งข้างทาง 8 เม็ด ในที่สุดผู้ต้องหาหมดแรงวิ่งเนื่องจากโรคหอบหืดกำเริบ จึงถูกจับกุมแล้วนำตัวไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายังคงปากแข็งและอ้างว่าไม่ได้ผิดอะไร ที่วิ่งหนีเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนร้ายที่จะมาฆ่าตน เนื่องจากตนตกเป็นผู้ต้องหาข้อหาพยายามฆ่าหลานของนายก อบต. แห่งหนึ่งที่ อ.ท่าศาลา หลังจากติดคุกมาแล้ว 5 ปี ออกมาจากคุกก็มามีภรรยา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงตรวจค้นในบ้านพบอาวุธปืนและกระสุนดังกล่าว
ต่อมา ร.ต.อ.นนทวัช รัตนนิพนธ์ และ ร.ต.อ.ธวัชชัย ยั่งยืน รอง สว.สส.สังเกตเห็นข้างๆ บ้านมีรอยพรวนดินใหม่คล้ายจะปลูกผัก จึงเอาจอบขุดลงไปดูบริเวณหน้าบ้าน ข้างบ้าน และหลังบ้าน พบยาบ้าจำนวน 7,400 เม็ด ผู้ต้องหาจึงให้การรับสารภาพทันทีว่า ก่อนหน้านี้เคยมีอาชีพรับจ้างชำแหละไก่สดในตลาดทุ่งใหญ่ แต่นายจ้างให้ค่าจ้างวันละ 300 บาท แต่ใช้งานสารพัด จึงลาออกมาช่วยภรรยารับจ้างกรีดยาง สุดท้ายราคายางตกลงทุกวัน จึงหันมาเป็นคนกลางรับฝากยาบ้า โดยจะมีคนมาส่งให้ที่หน้าบ้าน จากนั้นตนก็จะนำไปฝังดินเพื่อรอให้ลูกค้ามารับไปอีกที และได้ค่าจ้างครั้งละ 3,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากยังพบบัญชีรายชื่อลูกค้ายาเสพติดอีกหลายเล่ม และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
