มือปืนพ่อลูกอ่อนมากลางฝน ยิงขู่ พนง.ร้านสะดวกซื้อ กวาดเงินพร้อมแพมเพิร์สหนี

พนง.ร้านสะดวกซื้อตะลึง มือปืนโผล่ปล้นร้านตอนฝนตก กวาดเงิน 8,000 พร้อมแพมเพิร์ส 1 ห่อ คาดคนร้ายเป็นพ่อลูกอ่อน

วันที่ 20 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าชิงทรัพย์ภายในร้านสะดวกซื้อ ริมถนนสายบ้านหนองเสือ – เพชรเกษม ม.2 บ้านหนองหูช้าง ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงประสาน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าของพื้นที่เขตรับผิดชอบ โดย พ.ต.ท.ยศวริศ ทองสงโสม สว.สอบสวน ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำโดย พ.ต.อ.ชยินธร สุคนธร ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ต.เกรียงไกร กิ่งสามี สวป.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยกำลังชุดสืบสวน ชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้รีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบว่า พนักงานที่อยู่ในร้านกำลังตกใจกลัวไม่หาย โดย น.ส.สิมิตตา ศรีอนันต์ นายธนศักดิ์ รัตนศิริ และพนักงานร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในร้าน เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ขณะฝนกำลังตก มีคนร้าย 1 คน นุ่งกางเกงยีน ขายาว สวมหมวกนิรภัยสีชมพู ใส่เสื้อกันฝน และใส่ถุงมือผ้าสีดำ เข้ามาภายในร้าน จากนั้นใช้อาวุธปืนขู่บังคับ น.ส.สิมิตตา และ นายธนศักดิ์ ที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์บริการ โดยยิงข่มขู่ไป 1 นัด กระสุนปืนถูกเพดานร้าน ทะลุฝ้า และหันปืนไปขู่บังคับให้ทั้งสองคนนำเงินที่มีอยู่ในลิ้นชักมาออกให้ ซึ่งมีเงินสดประมาณ 8,000 บาท หลังจากนั้นคนร้ายได้เดินเข้าไปที่ช่องวางสินค้ากลางห้อง ค้นหาสินค้าพร้อมหยิบเอาแพมเพิร์สเด็ก 1 ห่อ แล้วเดินออกจากร้านหลบหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและสอบสวน พบว่าคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ไม่ทราบยี่ห้อและสี นำรถมาจอดใกล้ร้านสะดวกซื้อ ก่อนทำทีหนีฝนเข้าไปเป็นลูกค้า แล้วใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ สันนิษฐานว่าอาวุธปืนจะเป็นปืนบีบีกัน หรือปืนปลอมที่ใช้ยิงเล่น โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อประสานชุดสืบสวน ออกติดตามแกะรอยคนร้ายรายนี้อย่างเต็มที่แล้ว

ด้าน นางปรีดาภร พ่วงมีชัย อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเจ๊อ้อยกาแฟโบราณ และอยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณตี 4 กว่าๆ ได้เกิดฝนตกหนักและมีลมพัดแรงมาก โดยในขณะนั้นตนกำลัง เตรียมจัดร้านเพื่อเปิดขายกาแฟในตอนเช้า และไม่ทราบว่าเกิดเหตุปล้นขึ้น มาทราบอีกทีเมื่อมีตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พอทราบข่าวก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากที่ผ่านมาตลอด 30 ปี ที่ตนเองเปิดร้านขายของอยู่บริเวณนี้ ไม่เคยเกิดเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อ มีเพียงแค่วิ่งราวทรัพย์ทั่วไป ซึ่งทราบข้อมูลว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้เงินไป 8,000 บาท พร้อมกับแพมเพิร์สเด็ก 1 ห่อ สงสัยคนร้ายน่าจะเป็นพ่อที่มีลูกอ่อน ไม่มีเงินซื้อของและเงินไปเลี้ยงลูก จึงได้คิดสั้นมาก่อเหตุ