
หลังจากความพ่ายแพ้ของเยอรมันต่อเม็กซิโก 0-1 ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาถรรพ์แชมป์เก่าตกรอบแรก จะเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่ เรามาย้อนดูกันดีกว่าว่าแชมป์เก่าทีมใดบ้างที่เคยร่วงตกรอบแรก

ทีมชาติอิตาลี
ทีมชาติอิตาลี ฟุตบอลโลกปี 1950 ที่ประเทศบราซิล
โลกของฟุตบอลในยุคทศวรรษที่ 1930 มหาอำนาจของโลกลูกหนังในตอนนั้นคือประเทศอิตาลี พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่สามารถป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จ อิตาลีได้แชมป์สมัยแรก (อิตาลีเป็นเจ้าภาพ) ในปี 1930 และครั้งที่ 2 (ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ) ในปี 1938 ในช่วงเวลาดังกล่าวอิตาลีก้าวไปสู่จุดสูงสุดในวงการลูกหนังอย่างไร้คู่ต่อกร แต่แล้วสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็อุบัติขึ้นทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลกต้องถูกระงับไปตลอดช่วงทศวรรษที่ 1940
หลังสงครามยุติ อิตาลีก็ยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในช่วงเวลานั้นทีมอย่างโตริโน สโมสรจากเมืองตูรินได้รับการกล่าวขานว่าเป็นทีมที่เก่งที่สุดในยุโรปพวกเขาคว้าแชมป์ลีกในประเทศมาแล้ว 4 สมัยซ้อน 1945-1949 จนได้รับการขนานนามว่า “Il Grande Torino หรือ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโตริโน่” แน่นอนว่าด้วยฟอร์มเก่งขนานนี้ นักเตะโตริโนทั้งทีมจึงถูกเรียกตัวติดทีมชาติอิตาลีเพื่อเตรียมตัวป้องกันแชมป์โลก เพียงแต่ว่าวันนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น
วันที่ 4 พฤษภาคม 1949 เกิดโศกนาฏกรรมซูเปอร์ก้า โดยเครื่องบินที่นักเตะโตริโน่และทีมงานโดยสารมา ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนกำแพงของมหาวิหารซูเปอร์ก้า ไม่มีใครรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั่วทั้งประเทศอิตาลีปกคลุมไปด้วยบรรยากาศแห่งความสูญเสีย จากวันนั้นจนถึงปัจจุบันทีมโตริโน่ไม่สามารถฟื้นกลับขึ้นมายิ่งใหญ่อย่างในยุค 40 ได้อีกเลย และแน่นอนว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้มันส่งผลกระทบต่อทีมชาติอิตาลีอย่างมหาศาล ขุนพลแดนมักกะโรนีร่วงตกรอบแรกฟุตบอลโลกถึง 4 สมัยซ้อน
ฟุตบอลโลก 1950 ที่บราซิล ย้ำอีกที่ว่าที่บราซิล ขุนพลอิตาลีและทีมงานเลือกที่จะเดินทางไปบราซิลโดยเรือ เพราะฝันร้ายจากโศกนาฏกรรมซูเปอร์ก้าเมื่อปีที่แล้ว ทัพอัซซูรีประเดิมสนามพ่าย สวีเดน 2-3 ก่อนชนะ ปารากวัย 2-0 แต่ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจาก สวีเดน ชนะ 1 นัด เสมอ 1 นัด มี 3 คะแนน ส่วนอิตาลี มีเพียง 2 คะแนน จากการชนะ 1 นัด แพ้ 1 นัด ตกรอบไป (ในยุคนั้นเอาแค่แชมป์กลุ่มเข้ารอบ และใช้ระบบชนะได้ 2 แต้ม) หลังจากนั้นมาในฟุตบอลโลกปี 1954, 1958, 1962 และ 1966 อิตาลีตกรอบแรกทุกครั้ง
และหลังจากที่พวกเขาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 มาครองได้ในปี 2006 อิตาลีก็ต้องมาร่วงตกรอบแรกอีกครั้งในปี 2010 ที่แอฟฟริกาใต้

ทีมชาติบราซิล
ทีมชาติบราซิล ฟุตบอลโลกปี 1966 ที่ประเทศอังกฤษ
หากนึกถึงชาติที่ประสบความสำเร็จมากมายในวงการฟุต บราซิลคือทีมลำดับต้นๆ ที่คนส่วนใหญ่นึกถึง แชมป์โลก 5 สมัยคงการันตีได้แล้วว่าขุนพลเซเลเซาคือเต้ยของฟุตบอลโลกอย่างแท้จริง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าทีมระดับบราซิลโดยเฉพาะบราซิลในยุคเปเล่ จะเคยตกรอบแรกฟุตบอลโลกมาแล้ว
โดยในฟุตบอลโลกปี 1966 ที่ประเทศอังกฤษ บราซิลลงประเดิมสนามด้วยการชนะบัลแกเรียไป 2-0 ในสภาพที่นักเตะบราซิลหลายคนโดยเฉพาะเปเล่โดนนักเตะบัลแกเรี่ยนเข้าหนักใส่ตลอดทั้งเกม จนทำให้อีก 2 เกมที่เหลือ บราซิลเล่นไม่ออกแพ้ ฮังการี่ 3-1 และแพ้โปรตุเกศไป 3-1 เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ทัพแซมบ้าตกรอบแรกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

ทีมชาติฝรั่งเศส (เสื้อฟ้า) ดวลกับเซเนกัล
ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลกปี 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่น-เกาหลีใต้
ขุนพล “เลส์ เบลอส์” พวกเขาขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของวงการฟุตบอลอยู่ระยะหนึ่ง ทีมตราไก่คือแชมป์โลกปี 1998 (ชนะบราซิล) และแชมป์ยูโรปี 2002 (ชนะอิตาลี) นักเตะส่วนใหญ่ของทีมกำลังอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพทั้ง ซีเนดีน ซีดาน, เธียร์รี่ อองรี, ปาทริก วิเอร่า, เอ็มมานูเอล เปอตี, ดาวิด เทรเซเก้ต์ และ ลิลิยอง ตูราม
จนเมื่อฟุตบอลโลกปี 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่น-เกาหลีใต้เริ่มต้นขึ้น ใครจะเชื่อว่าทีมที่เพิ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วและแชมป์ยูโรมาหมาดๆ จะมาตกม้าตายอย่างน่าอับอายในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ทีมชาติฝรั่งเศสประเดิมนัดแรกด้วยการแพ้พลิกล็อกให้กับเซเนกัลไป 0-1 นัดที่ 2 ก็ไปสะดุดเสมอจอมโหดอุรุกวัย 0-0 ก่อนที่จะไปพ่ายเดนมาร์ก 2-0 ร่วงตกรอบแรกฟุตบอลโลกแบบที่ยิงใครไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว

ทีมชาติสเปน
ทีมชาติสเปน ฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล
นับตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปี 2012 เป็นยุคที่ทีมชาติสเปนชูถ้วยแชมป์กันจนเมื่อยมือ ทั้งและแชมป์ยูโรปี 2008 และ ปี 2012 รวมถึงแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกของทีมกระดุในปี 2010 มันคือยุคที่ฟุตบอลสไตล์ ติกิ-ตากา ครองโลกอย่างแท้จริง มันเป็นยุคที่สเปนเต็มเปี่ยมไปด้วยนักเตะคุณภาพสูงอย่างชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรียส อิเนียสตา, อีเกร์ กาซิยาส, ชาบี อลอนโซ, เกราร์ด ปิเก, เชส ฟาเบรกัส, เซร์คิโอ บุสเกต์, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, เปโดร โรดริเกซ และ ดาบิด บีญา
ด้วยตัวผู้เล่นระดับนี้แทบไม่มีใครคิดว่าขุนพล “ลา โรฆา” จะตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2014 เลย แต่ทว่าเรื่องไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นได้เสมอ ทีมชาติสเปนประเดิมนัดแรกด้วยการพ่ายให้ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ คู่ชิงบอลโลก 2010 ไปอย่างย่อยยับด้วยสกอร์ 5-1 และพ่ายให้กับชิลีในเกมที่ 2 ด้วยสกอร์ 0-2 ส่งผลให้พวกเขาตกรอบในทันทีโดยที่ไม่ต้องลุ้นในเกมนัดที่ 3 เลย

แล้วเยอรมันจะตามรอยบรรดาแชมป์เก่าเหล่านี้หรือไม่ ?
ในโลกของฟุตบอลมันมีทั้งตามคาดและไม่คาดฝัน อยู่ที่ว่าตอนจบมันจะเป็นแบบไหน หากถามว่าเยอรมันเคยตกรอบแรกในฟุตบอลโลกหรือไม่ก็คงต้องตอบว่า เคย! ซึ่งมันต้องย้อนกลับไปในปี 1938 ที่ประเทศฝรั่งเศส ในยุคที่เป็นนาซีเยอรมัน ในเกมรอบ 16 สุดท้าย (รอบแรกในปีนั้น) ขุนพลอินทรีเหล็กเสมอกับสวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ทำให้ต้องดวลจุดโทษตัดสิน และก็เป็นทางสวิตฯ ที่ชนะไป 4-2 นั้นคือครั้งสุดท้ายที่เยอรมันตกรอบแรก โดยหลังปี 1938 ขุนพลอินทรีเหล็กคือทีมที่เข้าชิงฟุตบอลโลกมากที่สุด 8 ครั้ง เหนือทุกทีม โดยเป็นแชมป์ 4 สมัย (1954, 1974, 1990 และ 2014) เป็นรองแชมป์อีก 4 สมัย (1966, 1982, 1986 และ2002)
ส่วนความพ่ายแพ้ในนัดเปิดสนามต่อเม็กซิโก ถือเป็นการแพ้ในนัดเปิดสนามเป็นครั้งที่ 2 ของทีมชาติเยอรมันในศึกฟุตบอลโลก โดยความพ่ายแพ้ในเกมเปิดสนามครั้งแรกของอินทีรีเหล็กเกิดขึ้นในปี 1982 พวกเขาแพ้แอลจีเรียไป 1-2 แต่เยอรมันก็ยังฝ่าฟันจนเข้าไปชิงได้ นอกจากนี้สถิติในการคุมทีมของบุนเดสเทรนเนอร์โยอาคิม เลิฟนับตั้งแต่รับงานเป็นเฮ้ดโค้ชต่อจากเยอร์เก้น คลินส์มันน์ในปี 2008 เลิฟไม่เคยพาทีมจบต่ำกว่ารอบรองชนะเลิศเลย
ซึ่งแม้ว่าความพ่ายแพ้ต่อเม็กซิโกจะไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีของเยอรมัน แต่ก็ยังมีอีก 2 เกมให้ได้แก้ตัว ซึ่งครั้งนี้เทรนเนอร์เลิฟจะต้องคิดหาวิธีที่จะไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาอีก ฉะนั้นแฟนๆ อินทรีเหล็กอย่าเพิ่งหมดหวังกับการป้องกันแชมป์ในครั้งนี้ เพราะในปี 2010 ที่สเปนเป็นแชมป์พวกเขาก็ออกสตาร์ทด้วยการแพ้เช่นกัน









