มากกว่ากีฬา คือการรวมพลังเพื่อเป็นเจ้าบ้านที่ดี ‘ทรู’ กับภารกิจใหญ่ที่ใช้หัวใจนำทาง

มากกว่ากีฬา คือการรวมพลังเพื่อเป็นเจ้าบ้านที่ดี ‘ทรู’ กับภารกิจใหญ่ที่ใช้หัวใจนำทาง

INTERVIEW

ท่ามกลางดราม่าของซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ต้องยอมรับว่า มีความขลุกขลักหลายอย่างเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนนั้น พร้อมสู้เต็มที่ เพื่อสร้างความประทับใจให้มากที่สุด กับชาวต่างชาติ รวมถึงคนไทยเองด้วย

ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของซีเกมส์ครั้งนี้ ด้วยโปรเจ็กต์ “Power Up” นั่นคือ ทรูจะใช้ศักยภาพทั้งหมดที่มีของเครือข่ายทรู ในการสนับสนุน นักกีฬา และนักข่าว ให้การติดต่อสื่อสาร ราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

สำนักข่าว Today มีโอกาสพูดคุยกับ โอลิเวอร์-กิตติพงษ์ วีระเตชะ Chief Brand and Media Officer ของทรู คอร์ปอเรชั่น จึงได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ทำไมทรู ถึงทุ่มทุนสุดๆ กับโปรเจ็กต์ซีเกมส์ ที่ในแง่ธุรกิจแล้ว น่าจะเข้าเนื้อเห็นๆ

โอลิเวอร์-กิตติพงษ์ ในอดีตเคยเป็นผู้บริหารของเดนท์สุ ประเทศไทย บริษัทเอเยนซี่โฆษณาชื่อดัง แต่ย้ายมาอยู่ทรู คอร์ปอเรชั่นอีกครั้ง ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีภารกิจสำคัญ คือการ “สร้างแบรนด์” ของทรู ให้อยู่ในใจของผู้บริโภคให้มากที่สุด

เมื่อเขาย้ายมาปั๊บ ในเดือนกันยายน 2025 ก็ค่อยๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับทรู ขึ้นทีละเล็กละน้อย

เมื่อก่อน เราคิดถึงทรู เราจะคิดถึงเครือข่ายโทรศัพท์ หรือทรูวิชั่นส์ ก็จะคิดถึงคนที่ไปซื้อคอนเทนต์จากต่างประเทศ เอามาฉายให้ดู โดยใช้วิธีเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์

แต่ในช่วงหลังถ้าเราสังเกตดู ทรู จะมีการเล่นเกมรุกมากขึ้น เข้าไปอยู่ในกระแสมากขึ้น และไม่ใช่แค่เป็น “ผู้ให้บริการ” เท่านั้น แต่เข้าไปเป็นเพลเยอร์ หรือ ผู้สร้างคอนเทนต์ขึ้นมาด้วย

ตัวอย่างเช่น ตอนเกิดปรากฏการณ์ฟุตบอล 7 สี เกิดกระแสฟีเวอร์ กับทีมหมอนทองวิทยา ทางทรูเองก็ไม่ตกขบวน เข้าไปซัพพอร์ทเป็นกำลังใจให้ทีมหมอนทองฯ เช่นกัน แต่สิ่งที่ทรูทำ มีความพิเศษยิ่งกว่า เพราะพวกเขาสนับสนุน ทีม อบจ.ชัยนาท ที่คว้าแชมป์ด้วย ทรู เป็นแบรนด์เดียวที่ให้ทุนการศึกษาทั้งสองทีมเลย

โอลิเวอร์ เล่าว่า “ผมไม่คิดว่ามันเป็นหมอนทอง หรือชัยนาท แต่อยากให้เยาวชนรู้ว่า ความพยายามนั้นสำคัญ ทั้งผู้แพ้ และผู้ชนะ ก็ควรได้รับเครดิต และการยกย่องทั้งนั้น”

ในอีเวนต์กีฬาสำคัญอื่นๆ เช่น ตอนมีแข่งจตุรมิตร ที่สนามศุภชลาศัย ทรู ได้เอารถ COW (cell-on-wheel) หรือรถสัญญาณแบบเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปภายในงาน เพื่อให้ผู้คนในสนาม ได้มีสัญญาณโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ส่งคลิป ส่งภาพ ได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด

ไม่ใช่แค่เรื่องกีฬาเท่านั้น แต่ตอนเกิดวิกฤติน้ำท่วม ที่ภาคใต้ ทีมงานทรู ได้เดินหน้าอย่างรวดเร็วมาก มีการตั้งวอร์รูม ในสำนักงานทันที เพื่อแก้ปัญหาว่าทำอย่างไร จะทำให้สัญญาณกลับมาใช้งานได้เร็วที่สุดในเขตอุทกภัย

สิ่งที่เราเห็นความเปลี่ยนแปลงของทรู ในช่วงหลังคือ “การอ่านชีพจรของบรรยากาศสังคม” ในศัพท์ทางธุรกิจคือ Social Climate ในการทำธุรกิจนั้น ต้องไว และจับกระแสได้เร็ว ผู้คนอยู่ตรงไหน ใครต้องการความช่วยเหลือ ต้องการการซัพพอร์ท ทรูต้องไปอยู่ตรงนั้นให้ได้

ในการทำให้แบรนด์เป็นที่รักของประชาชน คุณแค่จะขายของอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องรู้ด้วยว่า สังคมกำลังคุยอะไรกันอยู่ และแบรนด์จะเข้าไปช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง

เช่นเดียวกับเรื่องไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ทางทรู รู้ว่าปัญหาสแกมเมอร์ คือภัยร้ายรุนแรงของคนไทยตอนนี้ สิ่งที่ทรูทำ คือมีระบบ ไซเบอร์ เซฟ อเลิร์ต ผูกโยงกับฐานข้อมูลของตำรวจ ทันทีที่มีเบอร์แปลกๆ ส่ง SMS มา จะมีการ detected ทันที จากทรู แล้วเตือนว่าให้ระวัง อย่าไปกดลิงค์ หรืออะไรเด็ดขาด โดยตั้งแต่ต้นปี 2025 ทรูได้เตือนแจ้งลูกค้าไปแล้วมากกว่า 3 พันล้านครั้ง ช่วยเหลือคนจากการโดนสแกมมานับไม่ถ้วน

โอลิเวอร์อธิบายว่า “ในธุรกิจสื่อสาร คนชอบแข่งกันอย่างเป็นที่ 1 นั่นนี่ แต่ผมคิดว่า เรื่องคุณภาพเรื่องความเป็นอันดับ 1 เราไม่ควรเป็นคนพูดเอง แต่เราต้องทำงานหนัก และเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคให้มากที่สุด จนเขาสัมผัสได้ ถามว่าอยากเป็นที่ 1 ไหม? ก็ใช่ แต่อยากเป็นแบรนด์ที่ทำให้ คนไทยมีรอยยิ้มอันดับที่ 1 ต่างหากครับ”

สำหรับโปรเจ็กต์ใหญ่ที่สุดของโอลิเวอร์ ตั้งแต่เข้ามารับงานเป็นผู้บริหารฝั่งมีเดียของทรู คือโปรเจ็กต์ ซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

ด้วยความที่องค์กรแม่ ซีพี เดินหน้าลุยเต็มรูปแบบเพื่อสนับสนุนซีเกมส์ครั้งนี้ แต่ละยูนิตของซีพี เช่น เซเว่น อีเลฟเว่น, ทรูมันนี่ หรือ ซีพีเอฟ ก็จะมีวิธีการสนับสนุนซีเกมส์ที่ต่างกันออกไป

เอาจริงๆ ถ้าเราพิจารณาถึงผลกำไร-ขาดทุน ต้องบอกว่า การเข้าไปสนับสนุนเต็มตัวของกลุ่มซีพีรอบนี้ หนทางได้กำไร ไม่น่าจะง่ายนัก แนวโน้มขาดทุนคือสูงมาก เพราะกระแสของซีเกมส์ไม่ค่อยดีมาก แถมมาจัดในช่วงที่เกิดอุทกภัย พร้อมกับภัยสงครามอีก

แต่ซีพีพร้อมสนับสนุนซีเกมส์ทุกรูปแบบ แม้แต่การถ่ายทอดสด ก็ยังใช้ทรู วิชั่นส์ นาว ถ่ายทุกกีฬา รวม 20 ช่อง ถือว่าจัดเต็มมาก โดยไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีคนดูมากน้อยแค่ไหน ในแต่ละชนิดกีฬา

โอลิเวอร์อธิบายเรื่องนี้ว่า “อันนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากชื่นชมเครือครับ เราตั้งใจจะทำเพื่อชาติจริงๆ แล้วสมมุติแบรนด์ใหญ่อย่างเราไม่กระโดดเข้าไปก่อน เพื่อยืนยันว่าเราจะสนับสนุน แล้วแบรนด์เล็กๆ ก็จะไม่กล้าเข้าด้วย ในมุมของซีพี เรามองว่าเรามีศักยภาพที่จะช่วยภาครัฐ ในการเป็นเจ้าภาพที่ดีได้ ผมเลยคิดว่า มันต้องทำ แล้วท่านประธานก็เคาะมา ทุกคนก็เดินหน้าลุยเลย”

แปลง่ายๆ ว่าขาดทุนหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่อย่างน้อยโปรเจ็กต์นี้ จะต้องเดินหน้าเต็มที่ เพื่อทำให้ประเทศไทย จัดซีเกมส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

สำหรับทรู ในฐานะเครือข่ายโทรศัพท์ และ อินเตอร์เน็ต ก็ต้องมาตั้งโจทย์ว่า จะทำอะไรที่เป็นการสนับสนุนซีเกมส์ครั้งนี้ ด้วยทรัพยากรที่มี และในที่สุด พวกเขาก็ตกผลึกว่า พร้อมซัพพอร์ทด้วยคำสั้นๆ ว่า “Power Up” หรือที่แปลว่าเพิ่มพลังนั่นเอง

Power Up แรก คือ Power up Network อธิบายคือ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เสาสัญญาณของทรู กับ ดีแทค ได้ควบรวมโดยสมบูรณ์แล้ว ทำให้การส่งสัญญาณต่างๆ มีพลังเพิ่มขึ้น เร็วแรงขึ้น

ไม่ว่ากองเชียร์จะไปดูกีฬาที่ไหน จะกรุงเทพ ชลบุรี นครปฐม หรือเชียงใหม่ ก็มั่นใจได้ถึงพลังสัญญาณที่อัพเกรดจากเดิม ไหลลื่น ไม่มีติดขัดแน่นอน

Power Up ที่สอง คือ Power Up Athlete นั่นคือนักกีฬา “ทุกคน” ที่มาแข่งซีเกมส์ที่ไทยครั้งนี้ ทันทีที่ลงจากสนามบิน จะมีเจ้าหน้าที่ของทรู รออยู่แล้ว เพื่อมอบ “ซิมการ์ด” ของทรูให้ใช้งานตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์

ทีมงานทรู จะไปนั่งรอนักกีฬาอยู่ที่สนามบินเลย พอลงปั๊บก็แจกซิมกันเลย ให้นักกีฬามีอินเตอร์เน็ตใช้มากพอ คือในยุคนี้ เป็นยุคโซเชียลมีเดีย นักกีฬาแต่ละคน ก็สามารถเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในตัวเองได้ ถ้าทรูช่วยสนับสนุนเขาเรื่องออนไลน์ เขาก็สามารถสร้างคอนเทนต์ดีๆ เพิ่มความนิยมให้ซีเกมส์ได้อีก

รวมถึงโมเมนต์สำคัญ เวลานักกีฬาได้เหรียญ แล้วอยากวิดีโอคอลไปหาคุณพ่อคุณแม่ ทางทรูก็อยากเป็นคนช่วยเหลือ ที่ทำให้โมเมนต์แบบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่น

และ Power Up ที่สาม คือ Power Up Press นี่เป็น “เรื่องใหม่” ของทัวร์นาเมนต์กีฬาในไทย ที่มีเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เข้ามาซัพพอร์ทการทำงานของนักข่าวขนาดนี้ โดยทุกๆ สนามแข่งขัน ทางทรู จะเข้าไปช่วยเหลือในการติดตั้งอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ความเร็วสูง และ เซ็ตอัพ Wi-Fi ในศูนย์สื่อมวลชน เพื่อให้การส่งต่อ ภาพข่าว หรือวีดีโอข่าว ทำได้รวดเร็วและไหลลื่น

นี่คือ Power Up ทั้ง 3 แบบ ที่ทางทรู จะเดินหน้าลุยเต็มสูบ ในซีเกมส์ 2025 พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมในการแข่งขัน เพื่อทำให้ กองเชียร์ นักกีฬา และนักข่าว มีความแฮปปี้มากที่สุด จนถึงวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์เลยทีเดียว

ความน่าสนใจอย่างสุดท้าย คือฝั่งทรู ดูจะทุ่มเทให้กับทัวร์นาเมนต์ซีเกมส์อย่างมาก คำถามคือ แล้วพวกเขาจะได้อะไร ดูแล้ว ก็ไม่น่าจะแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นตัวเงินได้ขนาดนั้น

โอลิเวอร์กล่าวสรุปในเรื่องนี้ว่า “ผมมองในเรื่องการสร้าง Ecosystem ที่ดีครับ ผมคิดว่าในการทำธุรกิจ คุณจะเอาแต่รับ รับ รับ อย่างเดียวไม่ได้ แต่เราต้องช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือประเทศเรา ให้แข็งแรง จากนั้นเมื่อทุกคนมีความสุข สภาพเศรษฐกิจแข็งแรงขึ้น คนก็มีกำลังซื้อในภายหลัง”

“ในยุคนี้ เราต้องให้ก่อน ทำให้ลูกค้าได้รับ Benefit มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาได้ เราได้ ทุกคนได้ด้วยกันหมด”

“สำหรับเรา เรามองว่ากำไรที่ดีที่สุด ไม่ใช่เป็นตัวเงิน แต่กำไรที่ดีที่สุด คือผลประโยชน์ของสังคมครับ”

สำหรับซีเกมส์ 2025 ระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ไม่รู้จะผ่านไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่ แต่อย่างน้อย เรื่องการ “เชื่อมต่อ” ของกองเชียร์ และ นักกีฬา ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทาง ทรู ช่วย Power Up ให้ทั้งกองเชียร์ นักกีฬา และนักข่าวเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

วิศรุต Writerวิศรุต
นักข่าวที่รักการเขียน คุณพ่อลูกหนึ่ง เจ้าของเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง และมีผลงานพิมพ์หนังสือ 4 เล่ม ความฝันคืออยากให้คนรักการอ่าน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง