พล.อ.อ.ประจิน เผย บุญทรง ป่วยโรคหมอนรองกระดูกอักเสบเสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต เตรียมผ่าตัดใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ 27 พ.ย.นี้
วันที่ 5 พ.ย. 2561 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกรมราชทัณฑ์ว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จำเลยในคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐมีอาการป่วยด้วยโรคหมอนรองกระดูก จำเป็นต้องส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีอุปกรณ์ในการผ่าตัด หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจะมีโอกาสเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้ และต้องใช้เวลารักษายาวนาน ในสมัยโบราณผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวจะไม่เข้ารับการผ่าตัด จากประสบการณ์ป่วยด้วยโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนของตนเอง ยังต้องเข้ารับการรักษานาน 6-8 เดือน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้วิธีจัดกระดูกร่วมกับการทำกายภาพบำบัด
ด้านพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นายบุญทรงป่วยจริง เป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน มีอาการชาที่แขนจนถึงปลายเท้า ที่ผ่านมาถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจหลายครั้ง ในลักษณะของการเข้าๆออกๆ และเคยพักรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ 1-2 คืน แล้วนำตัวกลับมารักษาอาการที่ทัณฑสถานโรงพยาบาล จึงไม่ใช่การนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกแบบถาวร โดยแพทย์มีความเห็นให้รักษาด้วยการผ่าตัดกระดูกต้นคอ และนัดให้เรือนจำส่งตัวนายบุญทรงออกไปผ่าตัดในวันที่ 27 พ.ย.นี้
สำหรับนายบุญทรง เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่, รองประธานกรรมการคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่, กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการโรงเลื่อยจักรไทยพนาเชียงใหม่ จากนั้นถูกชักชวนให้มาลงสมัครส.ส.เชียงใหม่และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เชียงใหม่หลายสมัย ในนามพรรคไทยรักไทย, พรรพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย โดยหลังเข้ามาทำงานการเมืองได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม, เลขานุการรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, ที่ปรึกษารมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, กรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) และกรรมาธิการการต่างประเทศ จากนั้นได้รับความไว้วางใจจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่ง รมช.คลัง เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2554 และรมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.55
ขณะปฏิบัติหน้าที่ รมว.พาณิชย์ นายบุญทรงได้ดำเนินนโยบายรัฐบาลในโครงการระบายข้าว โดยมีการแก้ไขสัญญาการซื้อขายข้าวกับบริษัทที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีน ทำให้การเสนอประมูลราคาข้าวที่ถูกจัดขึ้นถูกเสนอราคาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อมาศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกนายบุญทรง 42 ปี ในความผิดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยหลังจากนายบุญทรงถูกนำตัวเข้าควบคุมที่เรือนจำคลองเปรม นายบุญทรงมีอาการป่วยด้วยโรคดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้นำตัวไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แต่อาการไม่ดีขึ้น อีกทั้งทางทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีเครื่องมือไม่เพียงพอ จึงถูกนำตัวส่งรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยแพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัดหมอนรองกระดูก ระหว่างเตรียมตัวเพื่อรอผ่าตัดและรักษาอาการป่วยที่รพ.ตำรวจมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้าดูผลัดละ 2 คน
