https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1944022949243230&id=100009066317008
จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Wanicha Ouyub ที่เขียนข้อความระบุขอความเป็นธรรม กรณีแฟนหนุ่มซึ่งเป็นผู้ต้องหาในเรือนจำกลางสมุทรปราการ ตายในเรือนจำ โดยทราบข่าวจากเรือนจำเมื่อเย็นวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่าครอบครัวไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และสับสนมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนเกิดเป็นการแชร์ข้อความไปหลายหมื่นครั้ง
วันนี้ (20 เม.ย. 61) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นายกฤษณ์ วงษ์เดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดย นายกฤษณ์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ เท่าที่ได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีคนส่งจดหมาย ซึ่งตัวจดหมายมีลักษณะโปร่ง คล้ายกับมีของนิ่มๆ อยู่ข้างใน ทางเจ้าหน้าที่ได้นำจดหมายซองดังกล่าวไปสอบถามตามแดนต่างๆ ทั้งแดน 1 แดน 3 และแดน 2 ก็ปรากฏไม่มีตัว เพราะในการส่งจดหมายเข้ามา ถ้ามีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ข้างในจะไม่มีการใส่ชื่อจริง
เจ้าหน้าที่เลยซ้อนแผน ตัดเปิดซองตรวจสอบได้พบว่า ภายในซองจดหมายดังกล่าวมียาเคแบบผงสีขาวซุกซ่อนอยู่ด้านใน ตรวจสอบทางเคมีพบว่า เป็นสีม่วง จากนั้นได้ทำการปิดซองดังกล่าวเข้าเหมือนเดิม ซึ่งดูจากการจ่าหน้าซองแล้ว มีตราของไปรษณีย์ที่ประทับอยู่ แต่ไม่ชัดว่า น่าจะเป็นแดน 5 จึงนำจดหมายดังกล่าวไปที่แดน 5 โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจับตาดูว่า จะมีใครมาหยิบจดหมายฉบับดังกล่าวไป ก็แสดงว่าเป็นของคนนั้น
ขณะที่เจ้าหน้าที่เผลอหันมาดูก็พบว่า ซองจดหมายได้หายไปแล้ว คือ ส่งเข้าไป 2 ซอง หายไป 1 ซอง จึงนำกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้น และได้พบจดหมายฉบับดังกล่าวไปซุกอยู่ที่กองพัสดุ ที่มีโต๊ะวางอยู่ก็เอาจดหมายไปแทรกเอาไว้ เจ้าหน้าที่ได้เอามาสอบสวนข้อเท็จจริง ก็พบว่า ทั้งซองจดหมายและลายเซ็น มีการส่งเข้ามาหาผู้ต้องขังที่เสียชีวิต มันคล้ายกับลายมือที่อยู่บนซองจดหมายดังกล่าว จึงเรียกมาสอบสวน และยอมรับว่า เป็นยาเสพติด จึงได้ดำเนินการลงโทษด้วยการฝึกระเบียบวินัย เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยไม่มีการลงโทษรุนแรงด้วยวิธีใด
ต่อมาในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ก็ได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องขังหน้าซีด มีอาการไม่ดี ซึ่งตอนนั้นเราก็มีแพทย์ของ รพ.บางบ่อ ซึ่งมาตรวจรักษาอยู่เรือนจำพอดี จึงได้เข้ามาให้การรักษาพยาบาล ก่อนนำส่งรถพยาบาลไปรักษาตัวที่ รพ.บางบ่อ และได้ทำการช่วยชีวิตอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งทางเรือนจำได้สอบถามไปทางเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ ก็ได้รับรายงานว่า ไม่ได้ทำร้ายแต่อย่างใด แต่ใช้วิธีการแบบการฝึกระเบียบวินัย และก็ลงโทษตามกฎระเบียบ
ก่อนหน้านี้มีการลงโทษกันอยู่ เพราะยาเสพติดเป็นนโยบายหลักของประเทศ ที่ทำให้กรมราชทัณฑ์ ต้องประสบกับปัญหา เสียชื่อเสียงมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ทางเรือนจำก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด คือ การลงโทษ แต่ว่า เจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้ว่าใครมีโรคประจำตัวอะไร มีข้อบกพร่องอะไรอยู่ในตัว หลังจากนี้ทางเรือนจำ ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่านไว้แล้ว และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง เพื่อจะสอบหาผู้ที่กระทำผิด เพื่อจะดำเนินการตามระเบียบต่อไป
เราทั้งแจ้งความในคดีอาญา ซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมในชั้นของตำรวจ ก็จะเข้ามาสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงซึ่งเราก็ได้ให้ความเป็นธรรม คือรู้ว่า ที่เกิดเหตุนี้มีใครที่กระทำความผิด เพราะทางญาติก็ได้แสดงความจำนงชัดเจนว่า อยากให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย เพื่อหาคนผิดมาลงโทษ
