
เจ้าหน้าที่ยังคงนำกำลัง 300 นายปูพรมล่าตัว “เอ๋ ควาย” นักโทษคดียาเสพติดแหกคุกหลบหนี ระหว่างที่รักษาตัวในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ 7 จังหวัด จัดกำลังไล่ล่าแต่ยังไร้วี่แวว ขณะคุมตัวคนสนิทเอ๋ควาย สอบปากคำ อาจเอี่ยวช่วยเอ๋ควายหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 พ.ค. 61) เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ จ.ลำพูน, จ.อุตรดิตถ์, จ.แพร่, จ.พะเยา, จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ สนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง 4 โรงพัก, กำลังทหารมณฑลทหารบกที่ 32, กองกำลังผาเมือง, เจ้าหน้าที่ป่าไม้, ฝ่ายปกครองอำเภอห้างฉัตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 300 นาย ปูพรมเข้าพื้นที่ ต.หนองหล่ม อ.ห้างแตร จ.ลำปาง พร้อมอาวุธครบมือ

โดยเจ้าหน้าที่ยังคงลงพื้นที่ค้นหา นช.เสกสรร เขื่อนแก้ว (เอ๋ควาย) อายุ 39 ปี ชาว จ.ลำปาง นักโทษในคดีครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 15 วัน หลังจากหลบหนีขณะรักษาตัวที่ รพ.ห้างฉัตร ด้วยอาการปวดท้องใต้ลิ้นปี่ถึงชายโครงด้านซ้าย พบร่องรอยการตัดรั้วลวดหนามออกไปทางป่าละเมาะข้างโรงพยาบาล ซึ่งได้อาศัยจังหวะช่วงจะเข้าห้องน้ำสะเดาะกุญแจข้อเท้าแล้วหลบหนีออกไป เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา

ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 71/1 บ้านหลิ่งก้าน หมู่ที่ 3 ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร เพื่อติดตามตัว นายกิติชัย ปละทองคำ อายุ 23 ปี และนางชลลดา ปละทองคำ อายุ 25 ปี สองพี่น้องที่เดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขัง ขณะนอนรักษาตัวที่ รพ.ห้างฉัตร ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีไปในเวลากลางคืน แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวของบุคคลทั้งสอง จึงตามไปที่วัดหลิ่งก้าน และเชิญตัวบุคคลทั้งสองมาสอบสวนอย่างละเอียด ที่ศูนย์ปฏิบัติการชั่วคราว บ้านหนองหล่ม

ซึ่งผลการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า มีผู้ให้การติดต่อประสานมายังบุคคลทั้งสอง ให้เดินทางไปเยี่ยมนายเอ๋ ผ่านข้อความเสียงทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเพิ่มเติม คาดว่าวันนี้จะรู้ที่หลบซ่อนตัวของ นช. เอ๋ ควาย
และจากข้อมูลเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายเอ๋ควายน่าจะยังคงอยู่ในพื้นที่และหลบอยู่ตามป่าละเมาะในหมู่บ้าน ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวอย่างเร่งด่วน










