
เตือนผู้ติดตามคดีวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ หากวิจารณ์คำวินิจฉัยโดยไม่สุจริตและใช้ถ้อยคำหยาบคาย เสียดสี อาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล โทษแรงสุดถึงขั้นจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันที่ 7 มี.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน คือ คดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยศาลฯ นัดอ่านคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่มี รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 แล้ว คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้มีการเขียนกฎหมายลูก 10 ฉบับ หนึ่งในนั้นคือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 2 มี.ค.61
หนึ่งในหลักการสำคัญ คือ ห้ามละเมิดอำนาจศาล โดยมาตรา 38 ของ พ.ร.ป. วรรคท้ายระบุว่า “การวิจารณ์คําสั่งหรือคําวินิจฉัยคดีที่กระทําโดยสุจริตและมิได้ใช้ถ้อยคําหรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี หรืออาฆาตมาดร้าย ไม่มีความผิดฐานละเมิดอํานาจศาล”

ส่วนมาตรา 39 กำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืนมาตรา 38 โดยมีตั้งแต่ ตักเตือน, ไล่ออกจากบริเวณศาล และลงโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ซึ่งหากเป็นกรณีหลังสุด ต้องมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ (คือ 6 จาก 9 คน)
โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ระบุว่า บทบัญญัติข้อนี้ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ และอ้างถึง นายอุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. ที่เคยให้ความเห็นไว้ว่า การป้องกันการวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริตนั้นให้ครอบคลุมการใช้สื่อและสังคมออนไลน์ และรวมถึงการปลุกระดมมวลชนที่มาล้อมกดดันศาลด้วย
https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10161653554420551/?type=3&theater









