
ปมวางยาสุนัขที่โคราชเรียกเงินประกันจากบริษัทขนส่ง ใกล้ได้ความกระจ่าง “คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช” เรียกตัวนศ.และผู้ปกครองเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงวันนี้ เตรียมแถลงข้อเท็จจริง
ความคืบหน้ากรณีนักศึกษาแพทย์ว่าจ้างบริษัทรถขนส่งสัตว์เลี้ยงส่งสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพ็ท จังหวัดนครราชสีมา แต่สุนัขตายก่อนถึงมือหมอและเมื่อผ่าพิสูจน์ซากสุนัขกลับพบว่า มียาอยู่ภายในกระเพาะจำนวนมาก สงสัยสุนัขถูกเจ้าของวางยาเพื่อเรียกค่าประกันกับบริษัทขนส่ง

วันนี้ (11ก.ย.60) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้เชิญผู้ปกครองและนักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริงที่ศิริราชพยาบาล พร้อมยืนยันว่า จะไม่ปกป้องคนกระทำความผิด ทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องจริยธรรม แต่ยังเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารและฆ่าสุนัข ซึ่งมีโทษทางอาญาด้วย

ส่วนความคืบหน้าทางคดี หลังจากพ.ต.ต.มงคล คุปติศิริรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา สอบปากคำพยานแล้ว 3 ปาก คือ นายสัตวแพทย์ รัชภูมิ เขียวสนาม นายสัตวแพทย์หัวหน้ากลุ่มสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ผู้แจ้งความ, สัตวแพทย์หญิง อนงค์นาถ สุตธรรม เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพ็ทที่ผ่าตัดสุนัขและพยาบาลผู้ช่วย วันนี้ (11 ก.ย.60) ตำรวจจะส่งยาที่พบในกระเพาะอาหารสุนัขจำนวน 12 เม็ด และยาเม็ดสีเหลืองอีก 1 เม็ด ที่ตกอยู่ในตะกร้าไปตรวจพิสูจน์ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา และจะเชิญพนักงานขับรถขนส่งสุนัข รวมทั้งนักศึกษาแพทย์ที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งไม่มาตามนัดหมายตำรวจจะออกหมายเรียกตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ขณะที่เจ้าของฟาร์มสุนัข ย่านสุขุมวิท ที่เข้าให้ปากคำกับตำรวจสน.สุทธิสารเมื่อวานนี้(10ก.ย.60) ให้ข้อมูลว่า นักศึกษาแพทย์คนนี้มาซื้อสุนัขจากฟาร์มไป 2 ตัว โดยตัวแรกซื้อไปในเดือนกรกฏาคมและทราบว่าสุนัขตัวนั้นตายไปแล้วเช่นกัน ส่วนสุนัขตัวที่กำลังเป็นข่าวซื้อจากฟาร์มของตนไปเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยืนยันว่า สุนัขของฟาร์มมีการรับรองสุขภาพและทุกตัวมีสุขภาพดี ส่วนยาที่พบไม่ทราบว่าเป็นยาประเภทใด แต่ยืนยันว่าไม่ใช่วิตามินสำหรับสุนัข ส่วนตัวมองว่า จากหลักฐานต่างๆเป็นการเจตนาฆ่าและหากพบว่ากรณีนี้มีเจตนาฆ่าสุนัขจริง ก็จะร่วมเป็นผู้แจ้งความเอาผิดด้วย
ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เตรียมออกหมายเรียกนักศึกษาแพทย์เข้าให้ปากคำถึงเหตุการณ์และมูลเหตุจูงใจ หลังพบว่า นักศึกษาแพทย์ได้ซื้อสุนัขในราคา 6,500 บาท แต่ให้ออกใบเสร็จซื้อในราคา 50,000 บาท และมีการนำเอกสารดังกล่าวไปวางเงินค้ำประกันกับบริษัทขนส่งเพื่อเอาเงินประกันภัย 40,000 บาท









