สนช.ลงมติ ผ่านร่างกฎหมาย ป.ป.ช. (25 ธ.ค. 60)
ประเด็นคือ – หลังใช้เวลาอภิปรายถึง 2 วันเต็มในที่สุด ร่างกฎหมาย ป.ป.ช. ก็ผ่านความเห็นชอบจาก สนช. โดยตัดมาตรา ให้อำนาจ ป.ป.ช.ดักฟังโทรศัพท์ คุ้มครองสถานะของป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน
วันนี้ (25 ธ.ค. 60) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติเห็นชอบประกาศให้ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามและป้องกันการทุจริต (ป.ป.ช.) เป็นกฎหมายด้วยคะแนนเห็นด้วย 198 เสียง ต่อ 1 และ งดออกเสียง 7 เสียง
โดยตามขั้นตอน หลังจากนี้ ต้องส่งร่างฯ ที่ผ่านความเห็นชอบจาก สนช. ไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. เพื่อพิจารณาว่า การแก้ไขเนื้อหาของร่างฯ โดยสนช. ขัดต่อเจตนารมย์หรือไม่ ก่อนตั้งคณะกรรมาธิการ 3 ฝ่าย คือ ป.ป.ช. , กรธ. และ สนช. แต่หาก ป.ป.ช.และ กรธ.ไม่เสนอตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย จะมีผลให้ร่างฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมาย
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ชุดปัจจุบัน
ขณะที่ มาตรา 178 ที่มีใจความโดยสรุปว่า “ให้ประธาน ป.ป.ช. และ กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ นี้ใช้บังคับ ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่า จะครบวาระตามที่กำหนด” ที่ประชุม สนช. มีมติเสียงข้างมาก 157 ต่อ 26 คะแนน โดยสมาชิก งดออกเสียง 29 คน ส่งผลให้ ประธาน ป.ป.ช. และ กรรมการป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน ยังสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่า จะครบวาระตามกฎหมาย
ส่วน มาตรา 37/1 ที่ให้อำนาจ ป.ป.ช. ขออนุญาตจากอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้มาซึ่งข้อมูล ผ่านวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการดักฟังโทรศัพท์นั้น หลังจากเกิดข้อถกเถียงเรื่องการกระทบเสรีภาพ ได้ถอนมาตรา ดังกล่าวตั้งแต่ วันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา
