
ประเด็นคือ – สนช.รับหลักการร่างกฎหมาย ป.ป.ช. แล้ว ซึ่งประธาน กรธ. ได้ย้ำหลักการที่จะพิจารณาให้ร่างกฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วันที่ 2 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีมติ 200 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ หรือร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ในฐานะผู้เสนอร่างกฎหมายลูก ชี้แจงถึงหลักการและเหตุผลว่า เพื่อให้การปราบปรามการทุจริตมีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรม เช่น การกำหนดระยะเวลาการไต่สวนของ ป.ป.ช. ซึ่งไม่ควรเกิน 2 ปี แต่สามารถต่อเวลาได้ตามอายุความของคดีนั้น เพียงแต่ ป.ป.ช.ต้องไปตรวจสอบว่าเกิดปัญหาอะไรที่ทำให้การไต่สวนไม่เสร็จตามกำหนดเวลาโดยต้องแจ้งให้กับประชาชนทราบด้วย ขณะที่การตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของ ป.ป.ช. หากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.กระทำผิดเสียเองจะเป็นหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แต่ไม่มีอำนาจหน้าชี้ขาด เพราะจะให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. วินิจฉัยในชั้นสุดท้าย

มีชัย ฤชุพันธุ์
ด้านสมาชิก สนช. ที่ลุกขึ้นอภิปรายส่วนใหญ่สนับสนุนในหลักการที่ กรธ. จัดทำมา แต่ก็ยังมีเนื้อหาบางส่วนที่สมาชิก สนช. ต้องการเห็นความชัดเจนมากกว่านี้ โดยกระบวนการหลังจากนี้ ก็จะเป็นการพิจารณารายละเอียดในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 35 คน ประกอบด้วยสัดส่วนจาก กรธ. 3 คน, สนช., ป.ป.ช. และ ครม. อีก 32 คน ก่อนจะพิจารณารายมาตราในวาระ 2 และเห็นชอบทั้งฉบับในวาระ 3 ช่วงปลายเดือนธันวาคม









