
สาวแบงก์ถูกมิจฉาชีพมาตีสนิทฉวยโอกาสมอมยา จับแก้ผ้า ก่อนจะกวาดทรัพย์สินหายไปเพียบ ล่าสุดตำรวจรู้เบาะแสแล้ว และทราบว่ารู้จักกันทางแอปพลิเคชัน ‘บีทอล์ก’ ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามตัว
จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันนี้ (21 มิ.ย. 61) ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งเหตุว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) สาวแบงก์ วัย 30 ปี ถูกคนร้ายมอมยาแล้วรูดทรัพย์ ภายในคอนโดแห่งหนึ่ง หลังตลาดสดหมอสาโรจน์ ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง จนมีสภาพที่อยู่ในอาการมึนงง สะลึมสะลือ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
https://www.youtube.com/watch?v=qDF7UX9TGFU
จากนั้นก็เข้าตรวจสอบภายในห้องพัก ของ น.ส.เอ พบว่า ภายในห้องพักมีร่องรอยถูกรื้อค้น ทรัพย์สินได้หายไปจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย แหวนเพชร สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ เงินสด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และกระเป๋าแบรนด์เนมมูลค่ารวมกว่าแสนบาท นอกจากนี้ ภายในห้องยังพบขวดไวน์ที่ดื่มหมดแล้ว 2 ขวด และแก้วไวน์ 2 ใบ อีกด้วย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัยกลางคน ได้เดินเข้าไปในห้องพักของ น.ส.เอ ก่อนที่จะชิงเอาทรัพย์สินมีค่าไปหลายรายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า ตอนแรกคนร้ายน่าจะเข้ามาภายในห้องเกิดเหตุเพียงคนเดียว ก่อนคนร้ายอีกคนจะเข้ามาสมทบตอนเหยื่อหมดสติแล้วลงมือก่อเหตุ
และจากการสอบถามเพื่อนข้างห้องของ น.ส.เอ ให้การว่า เมื่อเวลา 23.00 น. ของวานนี้ (20 มิ.ย.) น.ส.เอ ได้มาเคาะประตูห้องพักในสภาพถูกมัดมือ – เปลือยกายล่อนจ้อน เธอจึงรีบหาผ้ามาปิดร่างกายและแก้มัด สอบถามก็ตอบเพียงว่าถูกคนทำร้าย เมื่อเข้าไปในห้องก็พบว่าข้าวของถูกรื้อกระจายทั้งห้อง จึงแจ้ง รปภ.ของคอนโด ก่อนที่ รปภ. จะแจ้งตำรวจให้ทราบ

รปภ.ของคอนโด ให้การว่า เมื่อเวลา 18.00 น. เขาเห็น น.ส.เอ นั่งรถมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร แต่จำหมายเลขไม่ได้ เข้ามาที่คอนโดกับเพื่อนชาย 2 คน จากนั้นประมาณ 20 นาที ก็พากันออกไปรับประทานอาหารค่ำ และได้กลับเข้ามาอีกครั้งเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.
จนเวลาประมาณ 22.00 น. เห็นเพื่อนชายทั้ง 2 คน ขับรถออกไปจากคอนโด และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับ น.ส.เอ และเวลาประมาณ 5 ทุ่มเศษ ที่ น.ส.เอ ไปเคาะประตูห้องพักของเพื่อนข้างห้องเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว

อย่างไรก็ดี สำหรับคอนโดหรูแห่งนี้ มีระบบการป้องกันความปลอดภัยค่อนข้างสูง ผู้คนที่เข้าออกต้องใช้การ์ดบัตรรูดเปิดประตูเข้าไป ซึ่งคนภายนอกทั่วไปไม่สามารถจะเข้าไปได้ ซึ่งการก่อเหตุของมิจฉาชีพครั้งนี้ เชื่อน่าจะเข้ามาทำตีสนิทกับ ผู้เสียหาย จนตายใจและหลงเชื่อพาเข้ามาในคอนโด จนถูกมอมยาชิงเอาทรัพย์สินไปในที่สุด
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ตำรวจเตรียมสอบปากคำ น.ส.เอ ผู้เสียหายอีกครั้ง หลังจากที่มีอาการดีขึ้น เบื้องต้นเชื่อว่า คนร้ายทั้ง 2 คนเพิ่งรู้จักกับผู้เสียหายทางแอปพลิเคชัน “บีทอล์ก” และนัดเจอกันในช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ ซึ่งตอนนี้ตำรวจพอรู้ตัวผู้กระทำผิดทั้งสองคนแล้ว เป็นคนในพื้นที่ จ.ระยอง อยู่ระหว่างติดตามตัว

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ขณะนี้ น.ส.เอ อาการดีขึ้นแล้ว และก็รีบออกจากโรงพยาบาลระยองไม่ติดต่อกับใครเช่นกัน ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็รอผู้เสียหายให้การเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ ทางตำรวจไปสอบถามเพิ่มเติมกับเพื่อนผู้เสียหาย โดยบอกว่า ผู้เสียหายชอบเล่นบีทอล์ค จึงอาจจะรู้จักคนร้ายผ่านทางนี้ จึงมีการนัดแนะกันจนพาขึ้นไปบนห้องจนกิดเหตุขึ้น ส่วนเรื่องอื่นไม่ขอเปิดเผยเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็เป็นห่วงเมื่อทราบว่าปลอดภัยแล้วก็รู้สึกโล่งใจ
สำหรับบีทอล์ก (Beetalk) เป็นแอปพลิเคชันโซเชียลหาเพื่อน จากประเทศสิงค์โปร์ ที่มีการเล่นกันอย่างแพร่หลาย เป็นแอปที่สนับสนุนให้มีการนัดพูดคุย คล้ายๆ กับการจับคู่ให้ จึงเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุ จนเกิดเหตุร้ายขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักถูกหลอกจนเป็นอันตราย บางรายถึงกับเสียชีวิตก็มีเกิดขึ้นแล้วในต่างประเทศ









