อย.ตรวจรับยาเสพติดของกลาง 6.3 พันกิโลกรัม ก่อนส่งเผาทำลายวันที่ 25 มิ.ย. นี้ ยันแม้ประมวลกฎหมายยาเสพติดปลดล็อกกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ แต่ยังต้องเผาทำลาย เหตุยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
วันที่ 21 มิ.ย.61 เมื่อเวลา 09.30 น. นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นประธาน ตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลาง ก่อนจะนำไปเผาทำลายที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 25 มิ.ย.61 นี้ โดยเป็นยาเสพติดให้โทษของกลางจาก 7,245 คดี น้ำหนักรวมกว่า 6,322 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท พร้อมเปิดคลังเก็บยาเสพติดให้โทษของกลาง ให้สื่อมวลชนได้ชมอีกด้วย
นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
ด้านเภสัชกร วชิระ อำพนธ์ ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด อย. กล่าวว่า ของกลางทั้งหมดที่จะนำไปเผาทำลายนั้น หลักๆ ยาเสพติดพวกนี้จะเป็น เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ประมาณ 5 พันกว่ากิโลกรัม นอกนั้นจะเป็นยาไอซ์, เฮโรอีน และยังมียาเสพติดอื่น เช่น กัญชา จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่จะนำมาร่วมเผาทำลายวันที่ 25 มิ.ย.ด้วยอีกประมาณ 8,300 กว่ากิโลกรัม
สำหรับการตรวจรับนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อทราบน้ำหนัก, ลักษณะ และประเภทยาเสพติด พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างว่าเป็นยาเสพติดหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่ส่งตรวจวิเคราะห์ทางวิชาการแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ห่อหุ้มยาเสพติดพวกนี้บรรจุลงหีบห่อ โดยมีคณะทำงานตรวจรับและเซ็นชื่อกำกับไว้ทุกหีบห่อ จากนั้นก็นำไปเก็บไว้เป็นสัดส่วนที่จัดไว้ในคลังยาเสพติดของ อย. จนถึงวันที่ 25 มิ.ย.61 ก็ให้นายวิชัยมาเปิดคลัง เพื่อส่งมอบให้คณะทำงานขนย้ายยาเสพติดให้โทษของกลางนำไปเผาทำลาย
ส่วนในเรื่องที่ ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ออกมา และเปิดช่องให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ นั้น เภสัชกร วชิระ บอกว่า จริงๆ แล้ว กัญชาก็สามารถนำไปใช้ในวิจัยทางการแพทย์ได้ ซึ่งตามปกติจะใช้กัญชาของกลางที่คดีหมดอายุความไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถนำมาใช้ในมนุษย์ได้ เนื่องจากไม่อนุญาตให้เสพ
ส่วนยาเสพติดให้โทษของกลางที่ยังเก็บรักษาไว้ที่คลังยาเสพติดของ อย. ยังมีเหลือกว่า 85 ตัน บางส่วนนำไปเก็บไว้ในคลังยาเสพติดที่สร้างขึ้นใหม่ สามารถรองรับได้ประมาณ 100 ตัน เพื่อบรรเทาปัญหายาเสพติดของกลางล้นคลัง
