
หลังจากที่ พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ พ.ศ.2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 เม.ย. และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 17 เม.ย. เป็นต้นไป โดยระบุถึงเหตุผลในการตรากฎหมายฉบับนี้ เนื่องจาก พ.ร.บ.ฉบับเดิม พ.ศ. 2528 ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว เนื้อหาและหลักเกณฑ์บางส่วนไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ภัยคุกคามความมั่นคงและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
วันที่ 17 เม.ย. ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเห็นต่อกฎหมายฉบับนี้ โดยตั้งข้อสังเกตมีเนื้อหาบางส่วนว่า
การให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติมีอำนาจใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เครื่องโทรคมนาคม หรือเทคโนโลยีอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือเอกสาร โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการในการกลั่นกรองและตรวจสอบการใช้อำนาจจากองค์กรอื่นในลักษณะที่เป็นสากล เช่น จากองค์กรศาล จะสุ่มเสี่ยงต่อการใช้อำนาจที่ไม่สุจริตและไม่ชอบธรรม และการใช้อำนาจเกินสมควรแก่เหตุ อันเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่รัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครองหรือไม่

การที่กฎหมายมาตรา 6 วรรคสามคุ้มครองการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ จะทำให้เกิดการอ้างการปฏิบัติหน้าที่ไม่สุจริตชอบธรรมของเจ้าหน้าที่หรือไม่
การใช้อำนาจหน้าที่ของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ จะขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง ที่บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมหรือไม่ และจะละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองหรือไม่
นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า อาจนำไปสู่การขอให้ศาลรัฐธรรมนูญของ พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ และ การใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยบุคคลผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครอง
อ่านความเห็นฉบับเต็ม
https://www.facebook.com/thanakrit.vorathanatchakul/posts/2150371298392104









