ตัวแทนวอทช์ด็อกเชียงใหม่ยันหลักฐานชัด เอาผิด “บอม หลบมุม” ชำเราสุนัขได้แน่ หลังตำรวจแจ้งข้อหาแล้ว ทั้งผิด พ.ร.บ.คอมฯ และทารุณกรรมสัตว์ พร้อมเผยผู้การเชียงใหม่เตรียมตั้งชุดสืบสวนสอบสวนทำคดีนี้โดยเฉพาะ ขยายผลจับเพิ่ม
ความคืบหน้ากรณีที่เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 61 เจ้าหน้าที่วอทช์ด็อก ไทยแลนด์ (Watchdog Thailand) ซึ่งเป็นองค์กรคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ชายคนหนึ่ง ในฐานความผิดกระทำทารุณกรรมสัตว์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการที่มีการเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอ ขณะกำลังร่วมเพศกับสุนัข ทางโซเชียลมีเดียในกลุ่มเฉพาะ
จนกระทั่งสืบทราบว่า ผู้ชายคนดังกล่าวคือ นายดำรงพล สานเมือง หรือ “บอม หลบมุม” อายุ 53 ปี อยู่บ้านพักแห่งหนึ่งใน ตำบลไชยสถาน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว และเชิญตัวไปสอบถามข้อเท็จจริงที่สถานีตำรวจภูธรสารภี รวมทั้งมีการแจ้งข้อกล่าวหาในที่สุด โดยที่ นายดำรงพล ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำชำเราสุนัข แต่ยอมรับว่ามีการถ่ายคลิปในท่าทางคล้ายการมีเพศสัมพันธ์กับสุนัขจริง เมื่อประมาณสิบปีที่แล้วด้วยความคึกคะนอง เพื่อโอ้อวดกันในกลุ่มเกย์ด้วยกันเท่านั้น
วันนี้ (1 พ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาว นรินทร์ธัช นันทวัน ณ อยุธยา อายุ 38 ปี ตัวแทนองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ Watchdog Thailand ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ร่วมแจ้งความและติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่า ทางทีมงานมีหลักฐานชัดเจนว่า นายดำรงพล น่าจะก่อเหตุกระทำชำเราสุนัขจริง โดยจะมีการนำหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งคลิปวิดีโอและภาพถ่าย รวมทั้งข้อความการสนทนา มอบให้กับตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด ซึ่งเวลานี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวนายดำรงพลแล้ว ในความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นางสาว นรินทร์ธัช นันทวัน ณ อยุธยา ตัวแทน Watchdog Thailand เชียงใหม่
ทั้งนี้ แม้นายดำรงพลจะอ้างว่าเป็นภาพที่ถ่ายนานแล้ว ก่อนที่จะมีกฎหมายบังคับใช้ และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับสุนัขจริงๆ แต่ทางทีมงานเชื่อมั่นว่า ด้วยหลักฐานที่มีจะสามารถเอาผิดกับนายดำรงพลได้อย่างแน่นอน เพราะข้ออ้างดังกล่าวไม่สามารถใช้ปฏิเสธความผิดที่กระทำสำเร็จไปแล้วได้ โดยคดีนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ในความสนใจของประชาชน โดยเฉพาะผู้รักสัตว์ และได้สั่งการให้มีการตั้งชุดสืบสวนสอบสวนขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อทำคดีนี้ และขยายผลดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องกระทำผิดทั้งหมด ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย. 61)
(ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก WATCHDOG THAILAND, อยากดังเดี๋ยวจัดให้)
