
ป่วยเป็นไข้ใจ ใครช่วยรักที (Finding Audrey)
โซฟี คินเซลลา : เขียน
มณฑารัตน์ ทรงเผ่า : แปล
แพรวสำนักพิมพ์ มกราคม พ.ศ. 2559
‘ฉันใคร่ครวญถึงเรื่องต่างๆ อย่างหนัก แล้วก็คิดว่าแม่น่าจะพูดถูกเรื่องกราฟชีวิตที่มันมีขึ้นมีลง เราทุกคนล้วนมีกราฟแบบนี้ทั้งนั้น แม้แต่แฟรงก์ แม้แต่แม่ แม้แต่เฟลิกซ์ ฉันว่าสิ่งที่ฉันได้รู้ก็คือ ชีวิตนั้นล้วนประกอบไปด้วยการปีนป่ายขึ้นไป ลื่นไถลตกลงมา แล้วฉุดตัวเองให้ลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งต่อให้ลื่นล้มก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตราบใดที่เรายังมุ่งขึ้นสู่ข้างบนไม่มากก็น้อย เรามีสิทธิ์หวังกันได้แค่นั้นแหละ ขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มากก็น้อย’
ปกติแล้ว นิยายวัยรุ่นนั้นฉันมีค่อยสันทัด ไม่ว่าจะเพราะด้วยเหตุที่วัยล่วงเลยเกินกว่าจะเรียกว่าเป็น ‘วัยรุ่น’ หรือเพราะคิดเหมาเอาเองว่าตัวเองนั้นเป็นวัยรุ่นที่ออกจะผิดแผกแตกต่างจากวัยรุ่นปกติคนอื่นๆ เขาอยู่สักหน่อย เลยไม่ค่อยชอบเรื่องราวที่ค่อนข้างเป็นวัยรุ่น จริงๆ แล้วก็อาจจะแค่เพราะไม่ค่อยได้อ่านนิยายรักมากนัก โดยเฉพาะนิยายรักของวัยรุ่น แต่สีของปกนิยายเล่มนี้ทั้งเตะตาและดึงดูดสายตาจนยากจะมองผ่าน
และเมื่ออ่านโปรยปกหลังฉันก็ตัดสินใจหยิบมา เรื่องราวบนปกหลังนั้นบอกว่า…
“เหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนทำให้ ออเดรย์ เทอร์เนอร์ กลายเป็นคนประหลาด เพราะเธอออกจากบ้านไปไหนไม่ได้ และต้องสวมแว่นกันแดดตลอดเวลา เธอเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องมืดๆ ของเธอ ไม่กล้ามองหน้าหรือพูดคุยกับใครนอกจากคนในครอบครัว
แต่แล้ว ไลนัส เพื่อนพี่ชายเธอก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ด้วยรอยยิ้มแบบส้มหั่นเสี้ยวของเขา เขาช่วยผลักดันให้เธอกล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ และเธอก็รู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่มีเขาอยู่ด้วย ท่ามกลางความวุ่นวายชวนหัวของครอบครัวเทอร์เนอร์ ออเดรย์จะยอมถอดแว่นกันแดดเพื่อมองดูโลกสดใสใบนี้อีกครั้งไหม แล้วรอยิ้มแบบส้มหั่นเสี้ยวของไลนัสจะมาเขย่าหัวใจเธอขนาดไหน มาร่วมลุ้นไปกับเธอกันเถอะ”
อันที่จริง คำโปรยบนปกก็แทบจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดของนิยายไปแล้ว จนเราพอจะเดาได้หรือเดาพลาดไปก็ไม่มาก แต่ถึงอย่างนั้นการได้อ่านและตามติดชีวิตของสาวน้อยออเดรย์ก็ให้ความบันเทิงใจได้พอสมควร แม้ว่าโดยส่วนตัวแล้ว ฉันจะไม่ค่อยชอบวิธีการเล่าเรื่องแบบที่ใช้การบรรยายของตัวละคร สลับกับการเล่าด้วยบันทึก จดหมาย รูปภาพ หรืออะไรทำนองนั้น ในเรื่องนี้ มีการเล่าเรื่องสลับด้วยการเขียนเหมือนบทหนังที่ออเดรย์ต้องถ่ายทำวิดีโอ เป็นสารคดีที่เป็นหนึ่งในขั้นตอนการรักษา ซึ่งจิตแพทย์ของเธอแนะนำให้ทำ (แค่ไม่ค่อยชอบเป็นการส่วนตัว แต่ว่ามันไม่ได้ทำให้สนุกน้อยลงหรอก)

‘ป่วยเป็นไข้ใจ ใครช่วยรักที’ เป็นเรื่องราวของสาวน้อยออเดรย์ สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว เทอร์เนอร์ ที่มีด้วยกันทั้งหมด 5 ชีวิต คือ พ่อ แม่ พี่ชาย และน้องชาย ครอบครัวนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวปกติทั่วไป แต่เราจะพบได้ตั้งแต่หน้าแรกที่ได้อ่านว่า ไม่ใช่เลย ครอบครัวนี้ไม่ธรรมดา หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ สมาชิกของครอบครัวนี้ไม่มีใคร ‘ธรรมดา’ เลย ไม่ว่าจะเป็น คริส คุณพ่อนักบัญชีที่ในอดีตสมัยวัยรุ่นเคยฝันจะเป็นนักร้องร็อคสตาร์ แอน คุณแม่ที่เคยเป็นที่ปรึกษาแบรนด์อิสระ แต่ต้องออกจากงานเพื่อมาดูแลบ้านและวุ่นวายอยู่กับลูกๆ โดยเฉพาะเมื่อออเดรย์ป่วยและมีปัญหา แฟรงก์ พี่ชายวัยรุ่น เด็กหนุ่มผู้บ้าเกมคอมพิวเตอร์อย่างหนักและหวังจะเป็นเกมเมอร์ นั่นทำให้เขามีเรื่องต้องปะทะกับผู้เป็นแม่อยู่แทบไม่เว้นวัน เฟลิกซ์ น้องคนเล็ก เด็กชายวัยสี่ขวบที่สดใสไร้เดียงสาตามประสา และออเดรย์มองว่าน้องชายเธอนั้นเหมือนตุ๊กตาหมีที่พูดได้เดินได้ มีผมบลอนด์หยิกเป็นลอนเหมือนดอกแดนดิไลออน แต่ความแสบซ่าของหนูน้อยก็ไม่ได้ด้อยกว่าความน่ารักเลย
ออเดรย์ถูกมองว่ามีปัญหามากที่สุดในครอบครัว เพราะเธอป่วยด้วยโรคประหลาด ไม่สามารถเจอหน้าผู้คน ไม่คุย ไม่สบตา และไม่ยอมออกจากบ้าน โดยเหตุการณ์เริ่มจากที่โรงเรียน และออเดรย์ก็ไม่ได้ไปโรงเรียนอีกเลย เธอใส่แว่นดำตลอดเวลา ต้องปรึกษาจิตแพทย์ พยายามต่อสู้กับความหวาดกลัวและ ‘สมองสัตว์เลื้อยคลาน’ พี่พยายามรังควานเธอจากข้างใน แล้วออเดรย์ยังต้องมาวุ่นวายใจกับชายหนุ่มแสนน่ารักอย่าง ไลนัส อีก
ความวุ่นวายสับสนอลหม่าน จนบางครั้งบางเหตุการณ์ก็ชวนเวียนหัวของครอบครัวนี้นั้น ทำให้คิดได้สองทาง หนึ่ง ก็อยากมีโอกาสได้มีครอบครัวแบบนั้น มันอาจจะดูเหมือนวุ่นวาย แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรัก ความอบอุ่น สายใยพิเศษที่ถักทอแทรกซึมอยู่ และอีกทาง ก็คิดว่า ช่างโชคดี ที่เราไม่ได้มีครอบครัวที่ชวนปวดหัวและวุ่นวายเหมือนออเดรย์ แต่เราต่างก็รู้ดีว่า ไม่มีใครเลือก ‘ครอบครัว’ ได้ และไม่ว่าจะครอบครัวไหนก็ล้วนต้องมีปัญหาหรือเรื่องยุ่งๆ สักอย่างสองอย่าง…เสมอ
สำหรับฉัน เสน่ห์ในงานของ โซฟี คินเซลลา คืออารมณ์ขันที่สอดแทรกอยู่ในเรื่อง และเพราะยังไม่เคยอ่านงานเล่มอื่น จึงเดาเอาว่านี่น่าจะเป็นแนวถนัดของเธอ เล่าเรื่องราวด้วยอารมณ์ขันแต่มันได้สาระและแง่มุมของชีวิตแฝงอยู่
หนังสือเล่มนี้ไม่หนามาก อ่านไม่ยาก ไม่ต้องใช้เวลานานนัก เหมาะกับการนอนอ่านในวันร้อนๆ หรือวันพักผ่อนสบายๆ ที่ไม่อยากมีอะไรมาวุ่นวายให้ปวดหัว
เราทุกคนล้วนเคยเป็นวัยรุ่น แต่ไม่ใช่ทุกคน ที่จะมีวัยรุ่นอันแสนสดใสเป็นประกายเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา บางคนกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมันก็ต้องเจ็บปวด ยากลำบาก จนกระทั่งอาจจะยังทิ้งรอยแผลเป็นจากการเติบโตนั้นเอาไว้ที่ใดที่หนึ่งในความทรงจำของเรา
แต่ก็คงเป็นอย่างที่ออเดรย์ว่านั่นล่ะค่ะ เราหวังกันได้แค่นั้นล่ะสำหรับชีวิต…
ปีนป่ายขึ้นไปเรื่อยๆ ลื่นไถลตกลงมา แล้วก็ฉุดตัวเองขึ้นมาใหม่ ขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มากก็น้อย

โซฟี คินเซลลา
ประวัติผู้เขียน : โซฟี คินเซลลา
- เป็นนักเขียนขายดีระดับนานาชาติ เคยทำงานเป็นนักข่าว เธอเขียนหนังสือขายดีติดอันดับหนึ่งมาแล้วหลายเล่มภายใต้นามปากกา แมเดอลีน วิกแฮม ซึ่งเป็นชื่อจริงของเธอ แล้วเธอก็แอบส่งนิยายภายใต้นามปากกา โซฟี คินเซลลา ให้กับสำนักพิมพ์เดิม กว่าจะมาเปิดตัวว่าเธอคือนักเขียนที่ชื่อโซฟี คินเซลลา ก็เมื่อนิยายเรื่อง Can You Keep a Secret? ได้ตีพิมพ์แล้ว
- ตอนนี้เธออาศัยอยู่ในลอนดอนกับครอบครัวและสามี แวะไปชมเว็บไซต์ของเธอได้ที่ www.sophiekinsella.co.uk
เดือนสิงห์
- เด็กหญิงรักการอ่าน ที่โตมาเป็นผู้หญิงรักการอ่าน และฝันว่าจะเป็นคุณยายผู้รักการอ่าน จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง
- คอลัมน์ ‘เล่าหลังอ่าน’ จะบอกเล่าสู่กันฟังถึงหนังสือที่ได้อ่าน เป็นการแลกเปลี่ยนความสุข ส่งต่อความประทับใจจากเรื่องราวระหว่างบรรทัดเหล่านั้น









