
ประเด็นคือ – เหยื่อกว่า 10 ราย บุกโรงพักพัทยา แจ้งดำเนินคดีสาววัย 33 และพวก ฉ้อโกงเงินนับ 100 ล้าน อ้างเป็นพนักงานองค์กรการเงิน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียหาย กว่า 10 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยระบุว่าทั้งหมดถูก น.ส.ศิริลักษณ์ งานดี หรือ น.ส.กุญช์ภัสส์ ภิรมย์จีรจาน อายุ 33 ปี และพวก ฉ้อโกงเงินนับ 100 ล้านบาท
นางทอง เพนส์ อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา มีคนรู้จักกันแนะนำให้มาลงทุนเล่นหุ้นหรือเทรดกับ “สยามออฟชั่น” กับ น.ส.ศิริลักษณ์ อ้างว่าเป็นพนักงานขององค์กรการเงินดังกล่าว ระบุว่าจะได้ดอกเบี้ยคืนถึงร้อยละ 8 ซึ่งในครั้งแรกได้ลงเงินไปจำนวน 1 ล้านบาท พบว่าได้ดอกเบี้ยคืนตามกำหนดเวลาจำนวน 8 หมื่นบาทต่อวัน ด้วยเห็นว่าได้เงินตามข้อตกลงและมีโปรโมชั่นใหม่ที่จะมีผลตอบแทนเพิ่ม ทั้งเงินสด ทองคำ และรถยนต์ จึงได้ตัดสินใจลงเงินเพิ่มมาเรื่อยๆ กระทั่งมียอดสะสมกว่า 10 ล้าน จนมาระยะหลังเริ่มไม่ได้รับเงินปันผล การติดต่อก็ยากลำบาก จึงประสานกลุ่มคนที่ลงเงินด้วยกันจนพบว่ามีปัญหาเช่นเดียวกัน ขณะที่ น.ส.ศิริลักษณ์ ได้หายตัวไป จึงรวมตัวกันมาแจ้งความ

ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ในเมืองพัทยา ระบุว่า สูญเงินไปแล้วกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ น.ส.ศิริลักษณ์ เคยทำงานเป็นอดีตลูกจ้างที่ร้านได้เข้ามาพบและพยายามพูดคุยเรื่องของการเล่นหุ้นและเทรด ที่ระบุว่าได้ผลตอบแทนดี หลังจากถูกเกลี้ยกล่อมอยู่นานนับเดือน จึงตัดสินใจลงเงินเล่นไปด้วย ที่สำคัญในการลงเงินครั้งแรกจำนวน 1 หมื่นบาท ได้เงินคืนมาถึง 1 เท่าตัว
กระทั่งต่อมาเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงจากการลงเงินคืนที่ไม่ค่อยตรงตามกำหนด มีการเลื่อนนัด บ่ายเบี่ยง และประสานงานยากลำบากขึ้น จนสุดท้ายมีการบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง รวมถึงที่อยู่ซึ่ง น.ส.ศิริลักษณ์ พักอยู่กับญาติในพื้นที่ตำบลโป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบว่าได้หายตัวพร้อมกับสามี จึงมั่นใจว่าถูกหลอกเงิน จากนั้นจึงได้รวมตัวกันไปแจ้งความในพื้นที่ อ.ศรีราชา และที่ สภ.เมืองพัทยา อีกครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.บุญสาน สินทอง ผกก.สส. สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มผู้เสียหายยังได้เชิญญาติของ น.ส.ศิริลักษณ์ มาให้ปากคำด้วย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมีการโอนเงินผ่านญาติคนนี้ของ น.ส.ศิริลักษณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และให้ที่พักกับน.ส.ศิริลักษณ์ ซึ่งพบว่ามีเงินผ่านบัญชีวันละหลายแสนบาท เบื้องต้นจากการสอบปากคำได้ให้การว่าไม่เกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่ได้รับการร้องขอจาก น.ส.ศิริลักษณ์ เพื่อนำมาบัญชีมาไว้เพื่อการโอนเงินผ่านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จากนี้จะได้ทำการสอบสวนปากคำเพิ่มเติมในส่วนของผู้เสียหายทั้งหมด รวมทั้งพิจารณารายละเอียดของคดีว่ามีความเป็นมาอย่างไร ก่อนจะทำการตั้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามขั้นตอนอีกครั้ง









