นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ วิเคราะห์ สถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ และจากการที่นายสนธิรัตน์ ประกาศไม่รับตำแหน่ง รมว.พลังงาน ชี้ส่งสัญญาณอันตรายภายในพรรค
วันที่ 1 ก.ค. 62 นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ ระบุว่าท่าทีของกลุ่มสามมิตร ซึ่งมี ส.ส.30 คน ที่ร่วมกันเพื่อขับไล่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกจากการเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นสัญญาณอันตราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเน่าฟะ ที่จะส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังจากการเลือกที่ล่วงเลยมาแล้ว 97 วัน เป็นไปได้ยาก รวมถึงทำให้การบริหารประเทศ โดยเฉพาะปัญหาปากท้องต้องเป็นอันหยุดชะงัก หรือเป็นไปแบบกระท่อนกระแท่น หรือ เป็นแผนการสมคบคิดกันเพื่อซื้อเวลาสืบทอดอำนาจ หรือจัดฉากอย่างแนบเนียน และใช้โอกาสพี่น้องประชาชนสับสนกับเรื่องราวต่างๆ ฉกฉวยโอกาสปิดจ๊อบทางการเมือง และตอบแทนกลุ่มทุนผู้สนับสนุนการหาเสียงที่ผ่านมา
ปรากฏการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นว่า กระทรวงพลังงาน ต้องมีความพิเศษ เพราะมีการแย่งยื้อกันไปยึดครอง นอกจากนี้ ท่าทีของกลุ่มสามมิตรยังแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในกันเองอย่างรุนแรงของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งยังขาดเอกภาพ มีการยื้อแย่งกันทั้งอำนาจและผลประโยชน์
แต่อย่างไรก็ตาม การณ์ข้างต้นยังทำให้ประชาชนเห็นเป็นเชิงประจักษ์แล้วว่า กลุ่มพรรคพลังประชารัฐไม่มีเจตนารมณ์ที่จะทำงานเพื่อประชาชนอย่างจริงจัง และหากกลุ่มสามมิตรไม่สามารถร่วมหัวจมท้ายกับกลุ่มนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ซึ่งสนับสนุนระบอบประยุทธ์ และมีอุดมการณ์ที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ก็ขอเชิญไปร่วมทำงานเพื่อประชาชนกับ 7 พรรคฝ่ายค้านได้ทันที เพราะถือเป็นคนกันเอง
และการที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ออกมาแสดงความเศร้าโศกเสียใจ มันก็กลายเป็นเรื่องที่สายไปแล้ว เพราะประชาชนได้เห็นทั้งแก่นที่กลวง และกระพี้ที่มีแต่โรคร้ายกับหนอนที่ชอนไช และท้ายที่สุด ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐก็จะดับสูญไป
