ประเด็นคือ- ผู้ต้องหา 4 คน อ้างถึงการทำภารกิจเพื่อพระองค์ ด้วยการเดินสายรับลงทะเบียนผู้เป็นหนี้ ให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย เพื่อนำรายชื่อไปทูลเกล้าฯ ขอปลดหนี้ให้กับประชาชนที่มาลงทะเบียน
พ.ต.อ.ภาสกร สุขะ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย นำตัวนางวาสนา ศรีอริยะเมตตา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/2 หมู่ 2 ต.มะม่วงสองต้น จ.นครศรีธรรมราช หนึ่งในแกนนำผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 มาทำการสอบสวน
หลังจากนางวาสนา ได้อ้างถึงการทำภารกิจเพื่อพระองค์ ด้วยการเดินสายรับลงทะเบียนผู้เป็นหนี้ ให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย เพื่อนำรายชื่อไปทูลเกล้าฯ ขอปลดหนี้ให้กับประชาชนที่มาลงทะเบียน
โดยเหตุการณ์การจับกุมตัวนางวาสนากับพวกรวม 4 คน ประกอบด้วยนางชนัญพัชร์ วัชรเบญจรัศมิ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/37 ม.2 นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี, นางปิ่นประภา โรจนมณีกร อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/4 ม.8 ต.หนองน้ำใส อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และนายปัณณทัต พร้อมฉัตร อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่222/2 ม.7 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี
หลังจากกลุ่มบุคคลทั้งหมดใช้ชื่อกลุ่มว่า “ศูนย์ภูมิทานงานพ่อ” นำโดยนางวาสนา ได้อ้างเบื้องสูงแล้วไปจัดประชุมประชาชน ที่ศาลาวัดพระเชตะวัน หรือวัดพระนอน ชุมชนหนองบัว ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย และมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 10 คน มีการขึ้นป้ายและสัญลักษณ์อ้างว่าเกี่ยวข้องกับเบื้องสูง รวมทั้งระบุว่าจะสามารถช่วยปลดหนี้สิน ไถ่ถอนที่ดิน ให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย ที่ประชุมยังมีการแจกจ่ายเอกสารต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วม จากนั้นให้ประชาชนเขียนเรื่องราวร้องทุกข์และแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมทะเบียนบ้าน แล้วทางกลุ่มจะนำไปดำเนินการให้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบถึงพฤติกรรมการเคลื่อนไหว จึงได้เชิญตัวนางวาสนาและพวก 4 คน และผู้ร่วมประชุม ซึ่งมีแกนนำในพื้นที่ จ.เชียงราย เช่น นายสมควร สุตะวงค์ อดีตนายก อบต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในพื้นที่ จ.เชียงราย ในกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 และประธานผู้ประสานงาน นปช. จ.เชียงราย, นายมนตรี พงษ์ดีเด่น, นายวารินทร์ สุตะวงค์, นายสกลกร สุตะวงค์ และพวกรวม 10 คน ไปยังค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อทำการสอบสวนเบื้องต้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัว นางวาสนา, นางชนัญพัชร์, นางปิ่นประภา และนายปัณณทัต ให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ถึงเรื่องแอบอ้างเบื้องสูงและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ รวมไปถึงเส้นทางการเงิน ผลประโยชน์แอบแฝงที่นำมาสู่การเคลื่อนไหว
ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำครบทั้ง 4 ปากแล้ว แต่ทั้งหมดให้การปฏิเสธ และระหว่างสอบสวนได้อ้างถึงเบื้องสูงตลอดเวลา ทั้งมีกล่าวอ้างถึงกรมวัง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 คน ว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงรายต่อไป
