ศาลฎีกาตัดสิน ‘คุณหญิงจารุวรรณ’ คุก 9 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 15,000 บาท

ศาลฎีกาตัดสิน ‘คุณหญิงจารุวรรณ’ คุก 9 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 15,000 บาท

ศาลพิพากษาคุณหญิงจารุวรรณอดีตผู้ว่า สตง. เบิกจ่ายงบสัมมนาโดยมิชอบ โดยให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 15,000 บาท

วันที่ 27 ส.ค. 62 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาฎีกา คดีหมายเลขดำ 2054/2559 ที่ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่า สตง. และนายคัมภีร์ สมใจ อดีต ผอ.สำนักบริหารงานและทรัพยากรบุคคล สตง. ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีที่จัดให้มีการสัมมนา ที่ จ.น่าน วันที่ 31 ต.ค.46 แต่ไม่ได้มีการสัมมนาจริงเกิดขึ้น แต่ให้ข้าราชการที่มีรายชื่อเข้ารับการสัมมนาร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่จัดขึ้นในวันเดียวกันแล้วให้เบิกค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ จำนวน 294,440 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พ.ย.58 ศาลชั้นต้น พิพากษาว่าทั้งสอง มีความผิดตามมาตรา 157 ให้จำคุกคนละ 2 ปี จากนั้นคุณหญิงจารุวรรณ และนายคัมภีร์ ได้ยื่นสมุดบัญชีเงินฝากคนละ 200,000 บาทขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี

โดยศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษา วันที่ 23 ก.พ. 60 เห็นว่า การจัดและอนุมัติโครงการสัมมนากระทำไป เพื่อให้ข้าราชการ สตง.ไปร่วมการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน และการทอดผ้ากฐินสามัคคี การเบิกจ่ายงบประมาณ สตง.ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมของส่วนราชการ พ.ศ.2545 ครั้งนั้นจึงเป็นการเบิกจ่ายโดยไม่มีสิทธิ โดยทั้งสองรู้เห็นตั้งแต่ต้น จึงเป็นความผิด ตาม ม.157

ส่วนที่ขออุทธรณ์ว่าควรลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทั้งสองรับราชการที่ สตง.มางานจนดำรงตำแหน่งระดับสูง นับว่าได้ทำคุณประโยชน์ให้กับราชการ ประกอบกับจำเลยทั้งสองมีอายุมาก มีเหตุควรปราณี พิพากษาแก้โทษให้จำคุกเหลือคนละ 1 ปี แต่ไม่สมควรรอลงอาญา และได้ได้ประกันตัวคนละ 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

วันนี้ 27 ส.ค. 62 ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษา โดยคดีในส่วนของ นายคัมภีร์ ที่เสียชีวิตแล้วจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี ส่วน คุณหญิงจารุวรรณ ศาลเห็นว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จริง ส่วนกรณีที่ขอให้รอการลงโทษนั้น ศาลพิเคราะห์พฤติการแล้วเห็นว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย และเคยประกอบคุณงามความดี และเห็นว่าการเบิกจ่ายเงินนั้น ก็ไม่ได้นำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของตนเอง อีกทั้ง จำนวนเงินในคดีนี้ก็มีจำนวนไม่มาก กับเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกจึงสมควรให้โอกาส ในการรอการลงโทษไว้ แต่เห็นควรให้เพิ่มการลงโทษปรับด้วย

จึงพิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาจึงเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 4 จำคุกเป็นเวลา 9 เดือน โดยโทษปรับจำนวน 20,000 บาทนั้น เมื่อลดโทษแล้วคงปรับเป็นเงิน 15,000 บาท โดยโทษจำคุกนั้นให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง