https://www.youtube.com/watch?v=QHUOqoPUQs8&feature=youtu.be
การลงทุนยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งมีโอกาสเก็บเงินได้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ปัจจุบันหลาย ๆ คนเพิ่งมารู้ว่า เราควรลงทุนเพื่อเก็บเงินให้เพียงพอใช้หลังเกษียณ ตอนอายุ 40 – 50 ปีแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ควรทำอย่างไร ดร.พีรภัทร ฝอยทอง นักวางแผนการเงินส่วนบุคคล มีคำแนะนำในบทความนี้
“จะอายุเท่าไหร่ ถ้ายังไม่เริ่มลงทุนตอนนี้ ถือว่าสายทั้งหมด เริ่มต้นทำงานคุณก็ต้องลงทุนแล้ว แต่ถามว่า โอ้โห ฉันเพิ่งมารู้ตอนอายุ 40 – 50 งั้นฉันลงทุนเสี่ยง ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูง ๆ เลยได้ไหม ถ้าลงทุนเสี่ยง ๆ แล้วคุณขาดทุนไป 50 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าเงินก้อนของคุณหายไป 50 เปอร์เซ็นต์เลย ถึงเวลาเกษียณจริง ๆ ผลตอบแทนหรือพอร์ตการลงทุนของคุณยังไม่กลับมา จะกลายเป็นว่าคุณเหลือเงินเก็บน้อยกว่าเดิมอีก” ดร.พีรภัทร อธิบาย
ฉะนั้นทางออกของคนอายุมาก ๆ ที่ยังมีเงินเก็บไม่เพียงพอใช้หลังเกษียณ คือ หางานเพิ่ม หาเงินเพิ่ม
แล้วรู้ได้อย่างไร ว่ามีเงินเก็บพอเกษียณหรือยัง
ถ้าเกษียณวันนี้ คุณลองคิดว่าตัวเองจะตายตอนอายุเท่าไหร่ คุณมีเงินเพียงพอที่จะใช้ต่อเดือน นับตั้งแต่วันที่คุณเกษียณไปจนถึงวันที่เสียชีวิตหรือไม่ สมมุติผมบอกว่า ผมต้องใช้เงินเดือนละ 20,000 บาท และจะตายตอนอายุ 80 ปี ก็เอา 20,000 บาท มาคูณจำนวนปี คือ 20 ปี เท่ากับ 240 เดือน ได้ 4,800,000 บาท นี่คือเงินก้อนอย่างน้อยที่สุดที่คุณควรจะต้องมี
ทำไมเกษียณแล้ว ยังต้องลงทุนอีก
สมมุติผมวางแผนการเงินอย่างดีเลย พอเกษียณแล้วผมมีเงินก้อน 5 ล้านบาท ถ้าผมฝากเงินไว้ธนาคารได้ดอกเบี้ย 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หมายความว่า 1 ปี ผมจะได้เงินดอกเบี้ยจากธนาคาร 50,000 บาท หรือจะได้เงินออกมาใช้ประมาณ 4,000 กว่าบาทต่อเดือน
แต่ถ้าเกษียณแล้วผมลงทุนด้วย เงินก้อน 5 ล้านบาทเท่าเดิม ผมไปลงทุนแบบความเสี่ยงไม่ต้องมาก ซื้อพันธบัตร ซื้อหุ้นนิด ๆ หน่อย ๆ จัดพอร์ตการลงทุน ให้ได้ผลตอบแทนประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เงิน 5 ล้านบาท คูณ 5 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับปีหนึ่งผมจะได้เงินประมาณ 250,000 บาท หรือเดือนละ 20,000 บาท ผมก็สามารถอยู่ได้สบายขึ้น
สรุปสั้นๆ ลงทุนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
- ออมก่อนย่อมได้รับผลตอบแทนที่เยอะกว่า เมื่อเงินต้นก้อนใหญ่ขึ้นเหมือนเรามีต้นทุนที่ดี ผลตอบแทนที่ได้กลับมาก็จะเยอะขึ้นด้วย และเมื่อเราอายุมากขึ้น มีรายได้มากขึ้น ไม่มีภาระหนี้แล้ว ควรใส่เงินลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย
- ลงทุนให้สม่ำเสมอ เช่น ซื้อกองทุนไปเรื่อย ๆ หรือที่เขาเรียกว่าการ DCA (Dollar Cost Average) หมายถึงว่าทยอยซื้อกองทุนทุก ๆ เดือน เดือนละเท่า ๆ กัน เป็นประจำ กระจายความเสี่ยงและตัดอคติ
- รู้จักบริหารความเสี่ยง ถ้าไม่เสี่ยงเลยคงเป็นไปไม่ได้ จะฝากเงินไว้กับธนาคารอย่างเดียว ผลตอบแทนก็คงไม่ชนะเงินเฟ้อ ฉะนั้นต้องลงทุนในสินทรัพย์หลาย ๆ ประเภท กระจายความเสี่ยงเพื่อให้ได้ความเสี่ยงที่เหมาะสม ได้กำไรจากการลงทุน










