
หลังการแถลงข่าวประเมินผลงาน 4 ปีคสช. จนนำมาสู่การเข้าแจ้งความเอาผิด 4 ข้อหา วันนี้ 8 แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวกับตำรวจกองปราบปรามแล้ว
วันนี้ (21 พ.ค. 61 ) แกนนำพรรคเพื่อไทย 8 คน คือ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายชัยเกษม นิติสิริ, นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายนพดล ปัทมะ, นายวัฒนา เมืองสุข และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวที่ ฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจ้งความ 4 ข้อหา คือ 1. ฝ่าฝืนประกาศ คสช.ที่ 57/2557 ห้ามประชุมพรรคการเมือง 2.ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ห้ามมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง 3. พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ 4.ยุยงปลุกปั่น
ด้าน นายภูมิธรรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีอะไรเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเลย เพราะการมีสมาชิกพรรคเพียง 3 คน ออกไปสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลทำงานมา 4 ปี มีปัญหาและไม่ประสบความสำเร็จ จะกลายเป็นเรื่องไปล้มล้าง ก่อให้เกิดความวุ่นวาย สร้างปัญหา และจะยุบพรรคเพื่อไทยได้ ตนไม่คิดว่า รัฐบาลจะกล้าทำสิ่งนี้ เพราะทั้งหมดอยู่ในสายตาของประชาชน
เมื่อถาม ผู้มีอำนาจในขณะนี้ระบุ 4 ปี ถ้าไม่ดีจริงอยู่ไม่ได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ถ้าอยากรู้ว่าสิ่งที่ทำมาตลอด 4 ปีดีหรือไม่ดี ก็ลงมาสู่กระบวนการเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสิน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่บอกว่า ทำผิดมาตรา 116 จะต้องเป็นการกระทำที่นอกเหนือจากรัฐธรรมนูญ ทำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายของบ้านเมือง โดยใช้กำลังของประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้าน
ทั้งนี้ การถูกตำรวจดำเนินคดีใน 4 ข้อหา เนื่องจาก การแถลงข่าวประเมินผลงาน 4 ปี คสช. เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปติดตามสถานการณ์การแถลงข่าวได้เตือนว่า อาจเข้าข่ายทำกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งคสช.ยังห้ามอยู่ ทางแกนนำพรรคเพื่อไทย จึงปรับลดจำนวนผู้แถลงข่าวในวันดังกล่าว เหลือ 3 คน คือ คือ นายวัฒนา, นายจาตุรนต์ และนายชูศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง









