
จากกรณีวันที่ 24 มิ.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงคดีการบุกที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่พัทยา เมื่อปี 2552 ซึ่งได้ร้องต่อศาลไปว่า การนำหลักฐานเดิมที่ถูกดำเนินคดีที่ศาลอาญา รัชดา มาฟ้องที่ศาลจังหวัดพัทยาด้วยเป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่ ขณะเดียวกันยังระบุด้วยว่า การฟ้องครั้งนี้อัยการบอกว่านำตัว นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน มาฟ้องไม่ทันคดีจึงขาดอายุความ ซึ่งนายณัฐวุฒิ ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องการที่นายสุภรณ์ย้ายพรรคการเมืองก่อนหน้านั้นด้วยหรือไม่

ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
วันที่ 25 มิ.ย. นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับชี้แจงข้อมูลจากสำนักงานอัยการจังหวัดพัทยาว่า คดีนี้มีอายุความ 10 ปี เหตุการณ์ในคดีเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.52 และจะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย.62 พนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นพ.เหวง โตจิราการ, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายอดิศร เพียงเกษ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ในความผิดฐานฆ่าร่วมกันโฆษณา หรือประกาศให้ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งให้เลิกการมั่วสุม, ร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มาส่งอัยการในวันที่ 1 ส.ค.60 ในส่วนของนายจักรภพ ผู้ต้องหาได้มีการหลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้มีการขอศาลออกหมายจับตั้งแต่ต้น

สุภรณ์ อัตถาวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ
8 ก.พ.62 พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน หลังจากสั่งสอบสวนเพิ่มเติมตามรูปคดี ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหามีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา
25 ก.พ.62 ได้นัดให้ผู้ต้องหามาเพื่อนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง อัยการอนุญาตให้เลื่อนเป็นวันที่ 19 มี.ค.62
15 มี.ค. 62 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งโดยอ้างเหตุติดปราศรัยเลือกตั้ง
19 มี.ค.62 อัยการยื่นฟ้อง นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายจตุพร, นพ.เหวง เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยา ส่วนนายอดิศร อ้างเหตุติดหาเสียงเช่นเดียวกัน อัยการให้เลื่อนไป 2 เม.ย. 62
2 เม.ย. 62 นายอดิศร มาตามนัดจึงนำตัวฟ้องศาล ขณะที่นายสุภรณ์ ส่งทนายความมาเลื่อนก่อนหน้าวันนัด โดยบอกว่าหายใจไม่ออกและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่อัยการไม่อนุญาตให้เลื่อนและประสานตำรวจให้จับกุมตัวนายสุภรณ์ แต่ตำรวจนำตัวมาไม่ได้
4 เม.ย.62 ขอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับและอัยการส่งหนังสือเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมตัว เนื่องจากคดีจะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย.
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการไม่ได้มีการปล่อยปละละเลยได้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยหลังรับสำนวนมาหลังจากเกิดเหตุการณ์กว่า 8 ปี จากนั้นมีขั้นตอนที่กลุ่มผู้ต้องหาขอความเป็นธรรม จนมีคำสั่งฟ้อง 8 ก.พ. 62 ก็ได้พยายามดำเนินการตามขั้นตอน การไปตามจับก็ไม่ใช่หน้าที่ของอัยการ ส่วนเรื่องจะมีการตั้งสอบอัยการเจ้าของสำนวนหรือไม่ยังไม่มีรายงานเข้ามา ซึ่งอัยการเจ้าของสำนวนก็ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาระบุว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน เป็นคนเดียวที่รอดพ้นคดีว่า อัยการส่งฟ้องไม่ทัน ส่งฟ้องเมื่อไหร่จนคดีขาดอายุความ เรื่องนี้เกิดมาตั้งนาน
“คนไปพาดหัวข่าวว่าตอบแทน ตอบแทนไม่ได้หรอก ถ้าผมไปตอบแทนคนบางคนแล้วผมจะทำยังไงจะอยู่ได้ไงล่ะ ไม่ว่าจะพรรคไหนทั้งนั้นไปตอบแทนให้ใครไม่ได้ เป็นข้อแลกเปลี่ยนผลโยชน์ ลดคดีให้ ผมลดได้เหรอ ผมไม่ใช่ศาลนี่นา แล้วคดีพวกนี้ก็ไม่ใช่มาตรา 44 ของผมด้วย ผมไม่ได้ใช้เลยอัยการเขาคงชี้แจงได้อยู่แล้วล่ะ”









