นายกฯ ออสเตรเลียโต้ข้อครหา “แทงม้าตัวเดียว” สั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่ม ปัดเลือกจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพราะใช้ไวรัสอะดีโนเหมือนแอสตร้าเซนเนก้า
วันที่ 13 เม.ย. 2564 หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียไม่มีแผนที่จะซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จาก จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) จากความกังวลที่วัคซีนตัวนี้เป็นประเภทเดียวกันกับ แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งรัฐไม่แนะนำให้ฉีดกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี หลังมีรายงานผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์
เกรก ฮันต์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียออกมาแถลงว่า วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเป็นวัคซีนที่ใช้ไวรัสอะดีโน (Adenovirus) เป็นไวรัสพาหะ เช่นเดียวกับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ทางรัฐบาลไม่มีแผนที่จะจัดซื้อวัคซีนประเภทดังกล่าวเพิ่มเติมในตอนนี้
การแถลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่าคนที่ฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันในสหรัฐฯ 4 รายมีอาการลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้องค์การยาแห่งสภภาพยุโรป หรือ EMA กำลังตรวจสอบหาความเชื่อมโยงอยู่ ณ ขณะนี้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ออสเตรเลียตัดสินใจซื้อวัคซีนของ ไฟเซอร์ (Pfizer) เข้ามาเพิ่ม 20 ล้านโดส โดยวัคซีนล็อตที่สั่งเพิ่มจะมาถึงในช่วงปลายปี ทำให้ยอดสั่งซื้อวัคซีนยี่ห้อดังกล่าวของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านโดสแล้ว
หลังจากการประกาศให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 50 ปีเลี่ยงไปฉีดวัคซีนชนิดอื่นที่ไม่ใช่แอสตร้าเซนเนก้า ทำให้รัฐบาลออสเตรเลียโดนเร่งให้จัดหาวัคซีนชนิดอื่นมาแทนโดยเร็ว นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน จึงพยายามตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ว่า พึ่งพาวัคซีนชนิดเดียวมากเกินไป ก็คือการสั่งจองแอสตร้าเซนเนก้ามาเป็นจำนวนมากนั่นเอง










