ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพ วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ จะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 4,481,523 คน แบ่งเป็นผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรก หรือ First Time Voter ประมาณ 16% หรือ 698,660 คน เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงนี้เป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2556
เหลือเวลาอีกเดือนกว่าๆ ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง workpointTODAY ขอพาผู้อ่านไปสำรวจจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน กทม. ว่าแต่ละช่วงอายุมีสัดส่วนอย่างไร (อ้างอิงจากข้อมูลจำนวนประชากรกรุงเทพฯ อายุ 18 ปีขึ้นไป จากระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง) และผู้สมัครที่อาสามาบริหารเมืองให้คน กทม. แต่ละคนอยู่ในช่วงอายุใดกันบ้าง
เริ่มต้นที่กลุ่มผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรก หรือ First Time Voter มีอยู่ประมาณ 16% หรือ 698,660 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกือบ 7 แสนคนนี้ กำลังจะได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งแรกหลังจากมีการรัฐประหาร จึงเป็นที่น่าสนใจว่าพวกเขาจะลงคะแนนให้ผู้สมัครคนใด
ถัดมาคือกลุ่มอายุ 28-40 ปี เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุด คิดเป็น 23% โดยประมาณ หรือ 1,013,270 คน
ส่วนกลุ่มอายุ 41-50 ปี มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ประมาณ 19% หรือ 871,272 คน ซึ่งผู้สมัครที่มีอายุอยู่ในช่วงนี้เช่นกัน ได้แก่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล อายุ 44 ปี, สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ อายุ 44 ปี เป็นอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ อายุ 49 ปี
ขยับไปที่กลุ่มอายุ 51-60 ปี มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ประมาณ 18% หรือ 826,760 คน ใกล้เคียงกับกลุ่มก่อนหน้า โดยแคนดิเดตที่มีอายุอยู่ในช่วงนี้ เช่น ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ อายุ 55 ปี และ ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย อายุ 57 ปี
กลุ่มอายุ 61-70 ปี มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ประมาณ 14% หรือ 611,232 คน ส่วนแคนดิเดตที่มีอายุอยู่ในช่วงนี้ เช่น รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครอิสระ อายุ 68 ปี
กลุ่มอายุ 71-80 ปี มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ประมาณ 7% หรือ 309,315 คน ส่วนแคนดิเดตที่มีอายุอยู่ในช่วงนี้ เช่น อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครอิสระ อายุ 71 ปี และเป็นอดีตผู้ว่าฯ กทม. สมัยล่าสุดจากการแต่งตั้งโดย คสช.
และสุดท้าย กลุ่มอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุด ประมาณ 3% หรือ 151,014 คน
อ้างอิง
