17 เมษายนเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมานายบิลลี่ หรือ พอละจี รักจงเจริญ แกนนำเรียกร้องสิทธิชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานควบคุมตัวฐานเก็บของป่าและน้ำผึ้ง จากนั้นไม่มีใครพบเขาอีกเลย
ตลอดเวลา 5 ปีที่ไม่มีใครทราบชะตากรรม ครอบครัวของ “บิลลี่” นำโดยมึนอ-พิณนภา พฤกษาพรรณ ผู้เป็นภรรยาพยายามใช้ช่องทางต่าง ๆ ในการติดตามการหายไปของสามี คนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยอมรับคดีของเขาเป็นคดีพิเศษ 28 มิ.ย. 2561

ย้อนทามไลน์ความพยายามติดตามชะตากรรมของบิลลี่โดยครอบครัว ตั้งแต่วันที่หายตัวถึงวันยืนยันว่าเสียชีวิต
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีความคืบหน้าเรื่องคดีการหายตัวของเขาเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แถลงข่าวว่าพบกระดูกตรวจพบสารพันธุกรรมตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของบิลลี่ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 นำมาสู่การรวบรวมหลักฐานและยื่นฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในขณะนั้นและพวกรวม 4 คน
https://youtube.com/watch?v=viHMHWwVTbI
แม้จะพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอันเป็นข้อพิสูจน์ว่าบิลลี่นั้นได้เสียชีวิตแล้วหลังสูญหายไปตั้งแต้ปี 2557 แต่ในต้นปี 2563 เมื่อคดีเดินทางไปถึงสำนักงานอัยการสูงสุด อัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กับพวกรวม 4 คน ข้อหาฆ่านายบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายกะเหรี่ยง โดยสั่งฟ้องเฉพาะข้อหาเป็นเจ้าหน้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อ้างว่าขาดหลักฐานยืนยันว่าบิลลี่เสียชีวิตแล้ว
ขณะที่วันที่ 25 มกราคม 2563 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรียืนยันว่าการพิจารณาคดีฆาตกรรมของบิลลี่จะถูกหยุดพิจารณา หากมีหลักฐานใหม่ก็ต้องนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ขั้นตอนขอให้พิจารณาเป็นคดีพิเศษ ปิดฉากการต่อสู้ของครอบครัวตลอด 5 ปี
แอมเนสตี้ ประเทศไทย : ครอบครัวบิลลี่ยังรอความยุติธรรม
วันที่ 17 เมษายน 2563 แอมเนสตี้ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์เนื่องในโอกาสครบรอบการหายตัวไปของแกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย
“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องอีกครั้งให้ทางการรับประกันว่า ครอบครัวของบิลลี่สามารถเข้าถึงความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาในช่วงที่หายตัวไปจากการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ควรมีผู้ถูกลงโทษจากการเสียชีวิตของเขา” แถลงการณ์ของแอมเนสตี้กล่าว
ในแถลงการณ์ระบุว่าการหายตัวไปของบิลลี่คือการ “ขาดความยุติธรรม” ที่ฉายให้เราเห็นว่าครอบครัวของบิลลี่ต้องต่อสู้ท่ามกลาง “วงจรการละเมิดครั้งแล้วครั้งเล่า”
แอมเนสตี้กล่าวว่าความอยุติธรรมที่ครอบครัวของบิลลี่ต้องพบ เกิดขึ้นตั้งแต่ถูกบังคับไล่รื้อและทำลายทรัพย์สินในปี 2553 และ 2554 เมื่อเรียกร้องการเยียวยาต่อความเสียหายก็ถูกขู่ฆ่า บิลลี่ต้องหายไปในปี 2557 และทางการยังไม่สามารถเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวของเขาได้
“ทางการต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคที่กั้นขวางการเข้าถึงความยุติธรรมของครอบครัวเขา รวมทั้งการเยียวยาต่อการละเมิดที่เกิดขึ้นกับชุมชนของเขาหรือการหายตัวไปของเขา มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ทางการต้องกำหนดให้การบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายระดับประเทศ”










