พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงงบประมาณกระทรวงกลาโหมปี 2563 เพิ่มขึ้นกว่า 6 พันล้านบาท ไม่ผิดปกติ เพื่อดูสวัสดิการทหาร ซ่อมยุทโธปกรณ์ ส่วนจัดซื้ออาวุธใหม่ตามความจำเป็นเท่านั้น

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงงบประมาณ 2563 ของกระทรวงกลาโหม ว่า ในงานด้านความมั่นคงนั้นเป็นเรื่องสำคัญ กองทัพมั่นคง ประเทศมีความมั่นคง สร้างความเชื่อมั่นในการที่จะมีการลงทุนจากต่างประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจจะควบคู่กันไป มีความจำเป็นที่กระทรวงกลาโหมต้องพัฒนากองทัพให้รองรับกับอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย หน้าที่หลักของกระทรวงกลาโหม คือ
การป้องกันประเทศ ในยามปกติถือเป็นเรื่องสำคัญ กองทัพ กระทรวงกลาโหมได้จัดกำลังป้องกันชายแดน 8 กองกำลังอยู่ทั่วประเทศ กองกำลังเหล่านั้นนอกจากดูแลในเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนแล้ว ยังปฏิบัติภารกิจอื่นที่สำคัญ เช่น การสกัดกั้นยาเสพติด ลักลอบสินค้าหนี้ภาษี ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ เพื่อจะทำให้ไม่มีสิ่งไม่ดีเข้ามาในประเทศทำให้บ้านเมืองไม่มีความสงบเรียบร้อย นั่นหมายถึงไม่ปกติสุขของประชาชนคนไทยด้วย
หลักๆ กองทัพทำหน้าที่ 2 ประการ คือ เตรียมกำลัง และการใช้กำลัง ท่านคงสงสัยว่าในปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ ไม่น่าจะมีสงครามเกิดขึ้นเรื่องของการใช้กำลัง แต่ถ้าท่านมองไปที่แผนที่ประเทศไทยท่านจะเห็นว่า ประเทศไทยนั้นมีเขตแดนทางบกยาวถึง 5,656 กิโลเมตร มีน่านน้ำตามแนวชายแดนมากกว่า 1,680 ไมล์ทะเล มีแนวชายฝั่งยาวกว่า 1,500 ไมล์ทะเล มีพื้นที่ทางทะเลกว่า 323,400 ตารางกิโลเมตร และยังมีเศรษฐกิจจำเพาะที่ทับซ้อนกัน ความไม่ชัดเจนเหล่านี้เราไม่อาจเชื่อมั่นได้ว่าอาจจะเกิดความขัดแย้งหรือไม่ ถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้นแล้วพิจารณาได้ว่าจะเป็นความขัดแย้งระดับต่ำ เรามีความจำเป็นต้องเตรียมกำลังให้พร้อมไปสู่การเจรจาต่อรอง
ถ้าจะถามว่ากองทัพมีความจำเป็นแค่ไหนที่จะเตรียมกำลังมากมายแค่ไหนอย่างไร กองทัพได้มีการประมาณสถานการณ์ ประมาณภัยคุกคาม และเตรียมกำลังให้เพร้อมกับการใช้กำลัง ในการจัดเตรียมกำลังนั้นกองทัพได้พิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็น สถานการณ์ รวมทั้งขีดความสามารถด้านงบประมาณที่กองทัพได้รับ การจัดเตรียมขณะนี้คือการเตรียมกำลังให้พร้อม 1 ใน 3 หมายความว่า ในอดีตอาจจะจัดเตรียมกำลังเป็นระดับกองพล ก็จะลดระดับลงเป็นระดับกรมที่มีความพร้อม หมายความว่า มีขีดความสามารถ คล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ มีอำนาจในการยิง มีการอำนาจในการติดต่อสื่อสารที่จะเข้าไปควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

ภาพ : U.S. Embassy Bangkok
เรื่องยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ในอดีตได้รับการสนับสนุนจากมิตรประเทศและจัดหามาบางส่วน ยุทโธปกรณ์เฮลิคอปเตอร์ที่มีใช้อยู่ปัจจุบันนั้น อายุประมาณ 50 ปีขึ้น รถถังบางชนิดอายุ 40-50 ปี รถเกราะที่ใช้ 40 ปีขึ้นไป เครื่องบินขับไล่เอฟ 5 ที่กองทัพอากาศใช้อยู่อายุ 41 ปี เครื่องบินลำเลียง C-130 อายุใช้งาน 40 ปี สรุปยุทโธปกรณ์ที่กองทัพมีอยู่ อายุใช้งานที่เกิน 30-40 ปี มีอยู่ประมาณ 58 เปอร์เซ็นต์ ในการจัดหา 1 ใน 3 เป็นการจัดหาเพื่อมาทดแทนที่ชำรุดไม่สามารถซ่อมแซมได้ ที่ผ่านมาถ้าดูงบกระทรวงกลาโหม งบอันดับแรกที่เราจะใช้ คือ การปรับปรุงยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ให้ใช้งานได้ต่อไป
ท่านอาจไม่เชื่อก็ได้ว่ายุทโธปกรณ์บางอย่างที่เราได้ใช้อยู่ ประเทศต่างๆ ที่เป็นเจ้าของยุทโธปกรณ์เขาได้เลิกใช้ไปนานแล้วแต่เราก็ยังซ่อมปรับปรุงให้สามารถที่จะใช้งานได้ต่อไป เพื่อที่จะลดงบประมาณในการจัดหาเพิ่มเติมใหม่ การจัดหาก็เฉพาะที่จำเป็นให้สอดคล้องกับการใช้กำลังก็คือ ประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้น
งบประมาณ 2.3 แสนล้านบาทเศษในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 นี้ ถ้าย้อนไปตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา เราได้งบประมาณ 2.2 ของจีดีพีก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือร้อยละ 12 ของงบประมาณประเทศ แต่หลังจากวิกฤติเศรษฐกิจงบประมาณกลาโหมก็ลดลงมาเป็นลำดับต่ำสุดในปี 2549 ได้รับ 1.1 ของจีดีพี หลังจากนั้นจึงได้รับเพิ่มตามลำดับปีนี้ได้อยู่ที่ 1.31 ของจีดีพี ถ้าเปรียบเทียบสัดส่วนงบประมาณของประเทศ โดยเฉลี่ยก่อนวิกฤติ กระทรวงกลาโหมได้ 11.8 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณประเทศ และลดลงมา จนถึงปี 2549 ขยับขึ้นมาประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ 7.29 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณ ไม่ได้โตขึ้นผิดปกติ ยอด 2.3 แสนล้านบาทโตขึ้นตามสัดส่วนของงบประมาณประเทศ
งบประมาณที่เพิ่มขึ้น 6 พันกว่าล้านจากปี 2562 คือการดูแลสวัสดิการข้าราชการ ซ่อมแซมอาคารสิ่งอำนวยความสะดวกที่ชำรุด ในการจัดหายุทโธปกรณ์หรือเครื่องมือในการช่วยเหลือประชาชน ลดประปาสนาม เรือยาง เครื่องผลิตน้ำดื่ม รวมทั้งงบที่ใช้ซ่อมยุทโธปกรณ์ที่เก่าล่าสมัยใช้งานมานาน โดยสรุปคือ งบกระทรวงกลาโหมที่ผ่านมาถึงปัจจุบันไม่ได้เพิ่มขึ้นผิดปกติ ความเร่งด่วนแรก คือการซ่อม ปรับปรุงยุทโธปกรณ์ ส่วนการจัดหายุทโธปกรณ์ใหม่นั้นเท่าที่จำเป็นเพื่อทดแทนยุทโธปกรณ์ที่ไม่สามารถซ่อมปรับปรุงได้ หาชิ้นส่วนอะไหล่ได้ จัดหามาในจำนวนที่ใช้สำหรับเตรียมกำลังเพื่อให้พร้อมรับสถานการณ์เท่านั้น คือ 1 ใน ได้จัดงบตามแผนพัฒนากองทัพตามห้วงระยะเวลา









