
วันที่ 24 มิ.ย. สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รายงานการยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมืองต่อ กกต. ซึ่งเป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 67 ที่กำหนดให้ภายในเก้าสิบวันนับจากวันเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละคนและหัวหน้าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามแบบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด ซึ่งครบก าหนดในการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย ในวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ในส่วนของพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ได้ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย ครบทั้ง 74 พรรคการเมือง
ส่วนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย 10,608 คน มีผู้มายื่น 10,575 คน ไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย 33 คน

ขั้นตอนจากนี้คณะกรรมการของ กกต.จะตรวจสอบใช้เวลา 30 วันและขยายเวลาได้ไม่เกิน 15 วัน จากนั้นจะเปิดเผยรายงานสรุปทั้งหมดให้ประชาชนรับทราบ
สำหรับผู้ที่ไม่ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายตามเวลาที่กำหนด หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี
ส่วนผู้ที่ยื่นแล้วแต่บัญชีรายรับและรายจ่ายเป็นเท็จ ผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมืองต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี
ทั้งนี้ คาดว่าผู้สมัคร ส.ส.ที่ไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย 33 คน น่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดของข้อกฎหมาย









