ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาระดับชาติที่เรื้อรังมาอย่างยาวนาน ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพกายและใจ นับวันสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในไทยยิ่งรุนแรงมากขึ้น และเป็นความท้าทายในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งทางรัฐบาลกำลังพยายามป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคการศึกษา รวมทั้งภาคสาธารณสุข เพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหา
ซึ่งการขับเคลื่อนที่สำคัญของการปราบปรามยาเสพติดคือการ Kick Off โครงการ “รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยใช้กระบวนการ CBTx ขับเคลื่อนการทำงานเชื่อมกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) และเครือข่ายชุมชนเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยชุมชนเป็นฐาน

[ ชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx): ใช้ชุมชนเป็นฐานในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ]
ชุมชนล้อมรักษ์ หรือ CBTx (Community Based Treatment) เป็นกระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน แก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ป้องกัน เฝ้าระวัง บำบัดฟื้นฟู และช่วยเหลือให้ผู้เสพยาเสพติดกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ หลังหลุดพ้นจากวงจรยาเสพติด โดยอาศัยกลไกของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ และภาคประชาชน ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ
ซึ่งล่าสุดสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ ได้จัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพพลังอำเภอสู่การเป็นอำเภอต้นแบบและอำเภอขยายผลในการขับเคลื่อนชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมหาแนวทางในการแก้ปัญหายาเสพติดผ่านกลไกของชุมชน ตลอดจนการถอดบทเรียนและส่งต่อความสำเร็จโดยชุมชนต้นแบบ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

โดย โสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยและในอีกหลายประเทศทั่วโลกมาอย่างยาวนาน นับวันสถานการณ์ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต นำไปสู่ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ การแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สำเร็จอย่างยั่งยืน จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคการศึกษา รวมทั้งภาคสาธารณสุข เพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหา

“การจัดเวทีนี้ จึงเป็นการพัฒนาศักยภาพเพื่อปลุก ‘พลังอำเภอ’ ให้ขับเคลื่อนไปสู่การแก้ปัญหายาเสพติด และกลายเป็นอำเภอต้นแบบและอำเภอขยายผลผ่านแนวทางชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) ที่เน้นการใช้พลังของชุมชนช่วยกันดูแล ให้ชุมชนมีส่วนร่วมตั้งแต่การป้องกัน การบำบัดฟื้นฟู ไปจนถึงการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยนำผู้ที่มีปัญหากลับมาฟื้นฟู ปรับเปลี่ยน และคืนคุณค่าความเป็นมนุษย์ให้กลับมาเป็นคนของชุมชนได้อย่างภาคภูมิ ช่วยให้สังคมมีความสงบสุขอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ผมขอให้ทุกท่านร่วมกันใช้โอกาสนี้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสานความร่วมมือ และสร้างรูปธรรมที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างแท้จริง” รองนายกฯ กล่าว

[ ปลุกพลังสำคัญ แก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ]
ด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการฯ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยใช้กระบวนการ CBTx ขับเคลื่อนการทำงานเชื่อมกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) และเครือข่ายชุมชนเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยชุมชนเป็นฐาน ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ 1.พัฒนาอำเภอให้เป็นต้นแบบดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับพื้นที่ 2.พัฒนารูปแบบการขยายผลการดำเนินงานไปยังพื้นที่อื่นๆ เพื่อนำไปสู่การสร้างเครือข่ายการบำบัดรักษาผู้ป่วย บำบัดฟื้นฟูในชุมชน 3.ค้นหารูปแบบการฟื้นฟูหรือบำบัดผู้ป่วยในชุมชน และเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและเครือข่ายในพื้นที่ให้สามารถใช้กระบวนการ CBTx ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.พัฒนากลไกการสื่อสารและขับเคลื่อนงานไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้แนวทางการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดในชุมชนเป็นมาตรฐานเดียวกัน
“สสส. ขับเคลื่อนงานป้องกันยาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันมีพื้นที่ต้นแบบปลอดภัยจากยาเสพติด 29 พื้นที่ทั่วประเทศ มีเครือข่ายภาคประชาชนขับเคลื่อนงานสร้างพื้นที่ปลอดภัยป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 12,942 คน ในพื้นที่ 4,022 หมู่บ้าน/ชุมชน มีแกนนำเครือข่ายที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง 282 คน และตั้งแต่ปี 2567 สสส. ได้ขยายการดำเนินงานผ่านเวทีสานพลังชุมชนล้อมรักษ์ โดยเน้นพื้นที่เป็นฐาน ประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมถอดบทเรียนและหาแนวทางการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันใน 6 ภูมิภาค มุ่งส่งเสริมให้อำเภอมีการรวมตัวเพื่อสร้างความเข้มแข็ง มีการพัฒนาผู้นำชุมชน และมองหากลไกการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายคือทำให้อำเภอแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืน ซึ่งผลจากการประชุมในครั้งนี้ จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาระบบการทำงานระดับอำเภอสู่ชุมชนที่เข้มแข็งและปลอดภัย และนำไปสู่การขยายผลการทำงานครอบคลุมทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว

[ ถอดบทเรียนความสำเร็จจาก 3 ชุมชน อ.กำแพงแสน ]
ทีมพลังขับเคลื่อนของ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้เปิดเผยแนวปฏิบัติในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับพื้นที่ โดยใช้กระบวนการ CBTx ผ่านกลไก พชอ. ว่า ทีมพลังขับเคลื่อนมีบทบาทหลักในการติดตามผู้บำบัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างระบบเครือข่ายทางสังคมที่เอื้อต่อการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน ซึ่งจุดเริ่มต้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน เกิดจากความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ได้รับการร้องเรียนเรื่องการมั่วสุม การสร้างความวุ่นวายให้แก่ชาวบ้านของผู้เสพ ทางอำเภอ ตำรวจ และสาธารณสุข จึงได้ร่วมมือกัน นำแนวทางชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) โดยอาศัยกลไกของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) มาเสริมสร้างความเข้มแข็งของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (พชต.) และได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจนประสบสำเร็จ
สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม กลุ่มผู้เสพส่วนใหญ่เป็นเยาวชนและชายวัยทำงาน อายุระหว่าง 18-35 ปี พบการใช้สารเสพติด ทั้ง ยาบ้า ยาไอซ์ กัญชาและเฮโรอิน โดยนโยบายควบคุมยาเสพติดของพชอ. กำแพงแสน เริ่มจากการค้นหาและพาผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดด้วยความสมัครใจ โดยการบำบัดจะอยู่ในพื้นที่ชุมชนของผู้บำบัดตลอดระยะเวลา 1 ปี มีการจัดฝึกอาชีพให้ผู้บำบัด รวมถึงออกไปทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ร่วมกับชุมชน เช่น การพัฒนาชุมชน หรือการตรวจตราหมู่บ้าน ให้ผู้บำบัดได้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม นอกจากจะนำผู้เสพมาบำบัดแล้ว ยังดำเนินการจับกุมผู้ค้าอีกด้วย

กระบวนการ CBTx ผ่านกลไก พชอ.นี้ นำร่องดำเนินการใน 3 ชุมชนของอ.กำแพงแสน ไม่ว่าจะเป็น ชุมชนหัวชุกบัว ชุมชนบ้านอ้อกระทิง และชุมชนบ้านหนองดา ซึ่งบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย สามารถกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ดึงลูกหลานออกจากยาเสพติด คืนคนดีกลับสู่สังคมอย่างปลอดภัย และสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับชุมชน นับเป็นตัวอย่างที่สำคัญที่จะขับเคลื่อนให้ชุมชนอื่นๆ สามารถแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนผ่านแนวทางชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) และนำไปสู่การเป็นชุมชนที่เข้มแข็งต่อไป

[ ชุมชนที่เข้มแข็ง สำคัญต่อการบำบัดยาเสพติด ]
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ กล่าวว่า หนึ่งในกระบวนการสำคัญของ CBTx คือการติดตามผู้ป่วยยาเสพติดที่ถูกส่งกลับมายังชุมชนตลอด 1 ปี เพราะเป็นช่วง “วัดใจ” ว่าผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติดมาแล้วจะกลับไปใช้สารเสพติดอีกครั้งหรือไม่ หากการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดผ่านกลไก CBTx ประสบความสำเร็จ จะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ทำให้ผู้ที่เคยป่วยสามารถกลับสู่ชุมชนได้ ด้วยเหตุนี้การมีชุมชนที่เข้มแข็งจึงสำคัญ

“การรักษาให้ได้ผลจริงคือผู้บำบัดต้องไม่ใช้หรือเสพสารเสพติดตลอดระยะเวลา 1 ปี ซึ่งต้องเกิดจากทุกภาคส่วนสานพลังทำงานร่วมกัน ทั้งท้องถิ่น ชุมชน มหาดไทย ตำรวจ สาธารณสุข จึงล้วนเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี จนสามารถควบคุมให้ผู้ใช้สารเสพติดปรับความคิดและเปลี่ยนพฤติกรรมจากด้านมืดเป็นด้านสว่างได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เราต้องอาศัยชุมชนเข้มแข็งสักหนึ่งแห่ง ในหนึ่งอำเภอเป็นสถานที่เริ่มปฏิบัติการให้เห็นจริงก่อน เพื่อเป็นต้นแบบนำไปสู่การขยายผลให้ CBTx กระจายไปทุกพื้นที่” นพ.ยงยุทธ กล่าว










