ฉีดวัคซีนสูตรไขว้แอสตราฯ+ไฟเซอร์ได้ภูมิคุ้มกันสูงสุด

ฉีดวัคซีนสูตรไขว้แอสตราฯ+ไฟเซอร์ได้ภูมิคุ้มกันสูงสุด

COVID-19

ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ แอสตราฯ เข็ม 1 ตามด้วย ไฟเซอร์ เข็ม 2 ได้ภูมิคุ้มกันสูงสุด

วันที่ 22 ก.ย. 2564 ศูนย์วิจัยคลินิกคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รายงานผลการศึกษาการฉีดวัคซีนไขว้เทียบการฉีดวัคซีนชนิดเดียว พบการฉีดเข็ม 1 แอสตร้า ตามด้วยไฟเซอร์ สร้างภูมิคุ้มกันได้สูงสุด สรุปผลการศึกษาเบื้องต้นดังนี้

1. การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าแล้วตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ได้ระดับภูมิคุ้มกันสูงสุด 2,259.9 หน่วยต่อมิลลิลิตร
2. การฉีดวัคซีนซิโนแวคแล้วตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ได้ระดับภูมิคุ้มกันดีรองลงมาที่ 2,181.8 หน่วยต่อมิลลิลิตร
3. การฉีดวัคซีนซิโนแวคแล้วตามด้วยวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ได้ระดับภูมิคุ้มกัน 1,049.7 หน่วยต่อมิลลิลิตร

การใช้วัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มแรก แล้วตามด้วยแอสตร้าหรือไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี
การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเป็นเข็มแรกควรตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2
การวัดเป็นผล anti-RBD IgG วัดโดยเครื่อง Abbott และรายงานเป็นหน่วยมาตรฐาน BAU/mL ส่วนผลการวัดแบบ PRNT50 จะมีการรายงานต่อไป

นอกจากนี้ผลการศึกษายังไม่มีปัญหาเรื่องอาการข้างเคียงหลังฉีดเข็มที่หนึ่งและเข็มที่สองในระยะเวลาห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ ควรมีการศึกษาประสิทธิภาพและประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อในผู้ที่ได้รับวัคซีนเพื่อยืนยันภูมิคุ้มกันจากการศึกษานี้

ที่มา https://www.facebook.com/sicresofficial

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง