อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมีมติให้คำแนะนำการฉีดวัคซีน พร้อมให้คำแนะนำในการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา แจงสัปดาห์หน้าไทยรับวัคซีนอีก 8 ล้านโดส
วันที่ 6 พ.ย. 2564 วานนี้นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะมีวัคซีนส่งมอบให้ไทยประมาณ 8 ล้านโดส เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนกา (AstraZeneca) 2 ล้านโดส เป็นการส่งมอบตามแผนซึ่งปลายเดือนนี้จะส่งครบตามที่กำหนดไว้ นอกจากนี้จะมีการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) เพิ่มอีก 6 ล้านโดส
นพ.โอภาส กล่าวว่า ได้รับการประสานจากประเทศจีนว่าจะบริจาควัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ให้ประเทศไทยอีก 1.5 ล้านโดส
ขณะที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เปิดเผยถึงประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อ จากการใช้งานจริงโดยใช้ฐานข้อมูลห้องปฏิบัติการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ของผู้รับบริการเขต กทม. และข้อมูลการฉีดวัคซีนในระบบหมอพร้อมเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาพบว่า เมื่อฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ครบ 2 เข็มจะ ป้องกันติดเชื้อ 54% ส่วนสูตรไขว้ซิโนแวค+แอสต้าฯ ป้องกันติดเชื้อ 70% ถือว่ามีประสิทธิผลน่าพอใจ
นอกจากนี้คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมีมติให้คำแนะนำการฉีดวัคซีน คือ
- ฉีดวัคซีนโควิดชั้นผิวหนังได้กรณีวัคซีนมีจำกัด เนื่องจากประสิทธิผลใกล้เคียงกับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ พบผลข้างเคียงทางผิวหนังชัดกว่า แต่ผลข้างเคียงภาพรวม เช่น การเป็นไข้ลดน้อยลง เพราะใช้วัคซีนปริมาณน้อยกว่า
- ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิดไปพร้อมๆ กันได้ เนื่องจากวัคซีนโควิดมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ฉีดเกือบ 80 ล้านโดส อาการรุนแรงจากวัคซีนมีไม่มาก
- ผู้รับวัคซีน แอสตร้าฯ 2 เข็ม สามารถกระตุ้นเข็ม 3 ได้ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นาระยะห่างจากเข็ม 2 อย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป
- กรณีแพ้วัคซีนให้เปลี่ยนชนิดวัคซีนได้ ตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือตามดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนกรณีที่มีความจำเป็นต้องไปต่างประเทศ ให้พิจารณาฉีดตามข้อกำหนดของประเทศปลายทางเป็นรายกรณี
สำหรับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาคำแนะนำให้ฉีดตามเอกสารกำกับยาของบริษัทฯ ทั้งการฉีดสูตรปกติและสูตรไขว้ให้ฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์
