ในชั่วโมงเร่งด่วนของสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยความรีบเร่ง ‘อาหารพร้อมรับประทาน’ กลายเป็นทางเลือกหลักที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนไทย แต่ท่ามกลางเมนูที่มีให้เลือกมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ รสนิยมของคนไทยที่ยังผูกพันกับเมนูบ้าน ๆ ที่คุ้นเคย และหนึ่งในเมนูที่ทุกคนต้องเคยลิ้มลอง คงหนีไม่พ้น ‘ข้าวกะเพราถาดสีแดง’ ใน 7-Eleven เมนูสามัญประจำวัน ที่มาพร้อมรสจัดจ้าน กลิ่นหอมฉุนของใบกะเพรา และความเผ็ดซ่าที่เป็นเอกลักษณ์

เบื้องหลังความอร่อยในถาดสีแดงนี้ ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องรสชาติ หากคือเรื่องราวของการวิจัยพัฒนา ความร่วมมือกับเกษตรกร และแนวคิดเรื่อง ความมั่นคงและความยั่งยืนทางอาหาร ที่ถูกถักทอขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายทาง โดยการวางรากฐานความมั่นคงทางอาหาร และความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
เปิดสถิติความอร่อย 5.6 ล้านถาดต่อวัน
ปัจจุบัน ซีพีแรม (CPRAM) ผลิตเมนูข้าวกะเพรารวมกว่า 5.6 ล้านถาดต่อวัน ใช้ใบกะเพราสดมากกว่า 1.36 ตันต่อวัน(เฉพาะใบ) โดยเมนูยอดนิยม 3 อันดับแรก คือ
- ข้าวกะเพราไก่คั่ว
- ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว
- ข้าวกะเพราหมู
เพราะฉะนั้น ‘ใบกะเพรา’ จึงไม่ใช่แค่วัตถุดิบประกอบอาหาร แต่คือ หัวใจของรสชาติ ที่ซีพีแรมให้ความสำคัญ และถึงแม้กะเพราจะเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว และให้ผลผลิตตลอดปี แต่ในความเป็นจริงกลับเผชิญความท้าทายมากมาย ทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน มาตรฐานความปลอดภัย การจัดการศัตรูพืช

จากความท้าทาย สู่ โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต
ซีพีแรม ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทาน ได้พัฒนา ‘โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต’ เพื่อสร้างระบบการเพาะปลูกที่ได้มาตรฐาน GAP ยกระดับคุณภาพผลผลิต พร้อมสร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรในระยะยาว
หนึ่งในหัวใจสำคัญของโครงการ คือการ วิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ ‘กะเพราป่า’ ซึ่งโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์กลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว รสเผ็ดร้อนเข้มข้นกว่ากะเพราทั่วไป เมื่อนำมาปรุงอาหารจะให้รสชาติที่ชัดเจนและชวนรับประทานเป็นพิเศษ
ปัจจุบัน ซีพีแรม ได้จดสิทธิบัตรสายพันธุ์กะเพราที่พัฒนาขึ้นเองได้แล้วถึง 4 สายพันธุ์ ที่ถูกคัดเลือกมาแล้วว่ามีความต้านทานต่อสภาพอากาศที่แปรปรวน เติบโตไว และทนทานต่อโรคและแมลง เพื่อลดการใช้สารเคมีในกระบวนการเพาะปลูกให้มากที่สุด ส่งผลให้กะเพราทุกใบที่ถูกนำมาปรุงอาหาร มีคุณภาพที่สม่ำเสมอและปลอดภัยสูงสุด
Food 3S คือเบื้องหลังความอร่อยที่ยั่งยืน
กอบชัย คงทวี ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ลำพูน) อธิบายถึงแนวคิดเบื้องหลังว่า “โครงการเกษตรกรคู่ชีวิตถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สอดคล้องกับแนวคิด Food 3S ได้แก่ Food Safety ความปลอดภัยทางอาหาร ที่ต้องควบคุมคุณภาพวัตถุดิบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง Food Security ความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการวางแผนผลิตร่วมกับเกษตรกรให้มีวัตถุดิบเพียงพอและต่อเนื่อง และ Food Sustainability ความยั่งยืนทางอาหาร ที่ส่งเสริมการจัดการเกษตรอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป้าหมายคือ ทำให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคง ได้รับความรู้และทักษะการทำเกษตรอย่างยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตครัวเรือนในภาพรวม”

กอบชัย คงทวี ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ลำพูน)
วิจัยกะเพราป่า – ถ่ายทอดองค์ความรู้ครบวงจร
ซีพีแรม เดินหน้าฝึกอบรมและส่งเสริมความรู้แก่เกษตรกรในทุกขั้นตอน โดยส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ตั้งแต่การเพาะปลูก การจัดส่งเมล็ดพันธุ์ การตัดแต่งกิ่ง การคัดแยกผลผลิต ไปจนถึงการออกแบบโรงเรือน พร้อมนำเทคโนโลยีการเกษตร เช่น ระบบเซนเซอร์ควบคุมน้ำอัตโนมัติ และระบบบันทึกข้อมูลออนไลน์ มาใช้ควบคุมผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดการใช้ปุ๋ย เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และวางรากฐานการเกษตรที่ยั่งยืนให้ชุมชน
ผลลัพธ์ คือ ได้กะเพราที่มีคุณภาพสูง สะอาด ปลอดสารพิษ และผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP 100% พร้อมช่วยให้การใช้ทรัพยากรดินและน้ำเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
จามจุรี แก้วใสย ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า “การพัฒนาสายพันธุ์กะเพราป่า เราคัดเลือกจากหลายปัจจัย ทั้งความทนต่อสภาพอากาศแปรปรวน ความโตไว ให้ผลผลิตเร็ว คุณภาพใบที่มีกลิ่นหอมและรสเผ็ดเข้มข้น รวมถึงความต้านทานโรคและแมลง เพื่อลดการใช้สารเคมีและเพิ่มความปลอดภัยให้เกษตรกร”

จามจุรี แก้วใสย ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพีแรม จำกัด
เสียงจากเกษตรกร เมื่อกะเพราสร้างอาชีพ
ภานุวัฒน์ วิชัยรัตน์ หรือ ‘ลุงหนุ่ย’ ผู้ริเริ่มกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกะเพรายั่งยืน จังหวัดลำพูน และเกษตรกรต้นแบบ เล่าด้วยความภาคภูมิใจว่า “ปัจจุบันโครงการเกษตรกรคู่ชีวิตในลำพูนมีเกษตรกรเข้าร่วม 22 ครัวเรือน ทุกบ้านมีรายได้มั่นคงขึ้น ซีพีแรมดูแลแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่รับซื้อผลผลิต แต่ยังจ้างให้ช่วยเด็ดใบกะเพรา ทำให้ทุกคนในครอบครัวมีส่วนร่วมได้ ลูกหลานไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน ครอบครัวอบอุ่นขึ้น ที่สำคัญคือเราภูมิใจ เพราะผลผลิตจากไร่ของเราจะกลายเป็นอาหารที่ผู้คนบริโภคทุกวัน ทำให้รู้สึกว่าอาชีพเกษตรกรมีคุณค่า และอยากให้เกษตรกรคนอื่นเข้ามาเรียนรู้ เพื่อให้ชุมชนเติบโตไปด้วยกัน และสุขภาพดีขึ้นจากการไม่ใช้สารเคมี”

ภานุวัฒน์ วิชัยรัตน์ ผู้ริเริ่มกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกะเพรายั่งยืน จังหวัดลำพูน และเกษตรกรต้นแบบ
มากกว่าข้าวกล่อง คืออนาคตที่ยั่งยืนของอาหารไทย
ซีพีแรม คงเดินหน้าขยาย ‘โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต’ ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้าง ความมั่นคงและความยั่งยืนทางอาหาร ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ รสชาติอร่อย ในราคาที่เข้าถึงได้
ข้าวกะเพราซีพีแรมทุกถาด จึงไม่ใช่เพียงอาหารพร้อมรับประทาน แต่คือผลลัพธ์ของความร่วมมือระหว่างงานวิจัย เทคโนโลยี และหัวใจของเกษตรกรไทย ที่ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกมื้ออาหารเป็นมากกว่าความอิ่มท้อง แต่คือการสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนและประเทศในระยะยาวอย่างยั่งยืน










