ยุทธพงศ์ อ้าง ปรีดี ลาออก รมว.คลัง เพราะหวั่นต้องรับผิดชอบ ต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าไม่ถูกต้อง

ให้กระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งคณะทำงาน 10 คน มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานเจรจากับ บีทีเอส และแก้ไขสัมปทานให้รวมสายสีเขียวเหนือและเขียวใต้เป็นสัญญาเดียวกัน ซึ่งผิดเพราะสัญญาเก่ายังไม่หมดไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องใช้วิธียกเลิกเท่านั้น และประมูลใหม่อย่างถูกต้องและเป็นธรรม
“แต่ที่พิสดารจนทำให้นายปรีดีรับไม่ได้ เพราะในคำสั่ง มาตรา 44 ของ พล.อ.ประยุทธ์ ข้อ 6 บอกว่า ในกรณีที่ดำเนินการแล้วเสร็จจนได้ผลเจรจาเป็นที่ยุติ และร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขแล้ว ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างถาครัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ในส่วนของการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนแล้ว”

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า หมายความว่า ใช้มาตรา 44 ให้ไปเจรจาแล้วให้ยกเว้น ไม่ต้องเข้าเงื่อนไข พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ โดยไม่ต้องมีการประเมินทรัพย์สินในสัมปทาน เพื่อจะได้รู้ส่วนแบ่งของรัฐบาลและเอกชน แบบนี้เข้าข่ายไปเอื้อประโยชน์ให้บางบริษัทหรือไม่ ทำไมไม่เปิดประมูล
เรื่องนี้ก่อนที่นายอุตตม สาวนายน จะลาออกจาก รมว.คลัง 1 วัน เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ก็ได้ทำหนังสือขอให้ทบทวนเพราะเห็นว่า คำสั่งหัวหน้า คสช.เป็นการให้แก้ไขสัมปทานโดยไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน โดยขอถอนหนังสือเพราะกลัวว่าจะทำผิดกฎหมาย แต่ต่อมานายสันติ พร้อมพัฒน์ ที่เป็นรักษาการณ์ รมว.คลัง ส่งเรื่องนี้เสียบเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ส่วนรายละเอียดตนจะแฉในสภาผู้แทนราษฎร ในการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ วันที่ 9 ก.ย. นี้
ทั้งนี้ วันที่นายปรีดี เข้าประชุม ครม.ครั้งแรก 13 ส.ค. เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวก็โผล่มา ซึ่งนายปรีดีก็ได้ถอนเรื่องออกทันทีในวันนั้น แต่ต่อมามีความพยายามในบิ๊กรัฐบาลบีบนายปรีดีให้นำเรื่องนี้กลับเข้าไปภายในเดือนนี้ท่านเลยตัดสินใจลาออก
วันที่ 9 ก.ย. นี้ตนจะนำเรื่องนี้ไปถามนายสันติ พร้อมพัฒน์ ในสภาเช่นกัน