ศรีสุวรรณ ร้อง กกต.สอบ ธนาธร-ปิยบุตร จัดแฟลชม็อบโทษถึงยุบพรรค

ศรีสุวรรณ ร้อง กกต.สอบ ธนาธร-ปิยบุตร จัดแฟลชม็อบโทษถึงยุบพรรค

วันที่ 18 ธ.ค. เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางไปยื่นคำร้องเพื่อไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัย กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เป็นแกนนำในการจัดชุมนุมบริเวณสกายวอร์ก หน้าหอศิลป์เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธ.ค. เวลา 17.00-18.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจขัดต่อ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 และ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า การชุมนุมดังกล่าว มีการปราศรัยกล่าวโจมตีผู้นำประเทศอย่างเปิดเผย พร้อมนำตะโกนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก ซึ่งปรากฏเป็นภาพข่าวและคลิปวิดีโอเผยแพร่เป็นการทั่วไปในสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย สะท้อนให้เห็นถึงการใช้มวลชนกดดันรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงว่าสถานะของตนเองเป็น ส.ส.หรือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่ง พ.ร.ป.พรรคการเมืองบัญญัติห้ามไว้ และการจัดชุมนุมดังกล่าว ไม่ได้มีการแจ้งให้หัวหน้าสถานีตํารวจ สน.ปทุมวันให้รับทราบตาม มาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 อีกทั้งสถานที่จัดชุมนุมอยู่ใกล้วังสระปทุมซึ่งอยู่ในรัศมีไม่ถึง 150 เมตร จึงถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 7 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

ที่สำคัญ การกระทำดังกล่าวอาจเป็นการขัดหรือฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 45 ที่บัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองกระทําการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งอาจมีความผิดตาม ม.92(3) ประกอบ มมาตรา115 ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้ กกต.มีอำนาจไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัย หากพบว่าฝ่าฝืนให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นได้ และต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น

นายศรีสุวรรณ ย้ำว่า บุคคลทั้ง 3 คนมิใช่ประชาชนทั่วไป หากแต่มีสถานะเป็นถึงหัวหน้าพรรคการเมืองและเป็นผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 มีข้อห้ามไว้ การใช้สิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญได้ ก็จะต้องปฎิบัติตามกฎหมายด้วยจึงจะชอบ ไม่เช่นนั้นนักการเมือง พรรคการเมืองใด หากไม่พอใจรัฐบาล หรือแพ้เสียงในรัฐสภาก็อาจจะออกมาใช้วิธีการสร้างม็อบชักชวนมวลชนออกมาชุมนุมกันบนถนน ซึ่งเป็นวิธีการที่ขัดต่อกฎหมาย และเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีต่อระบบการเมืองของไทย และจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศด้วย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
ศรีสุวรรณ ร้อง กกต.สอบ ธนาธร-ปิยบุตร จัดแฟลชม็อบโทษถึงยุบพรรค