กางข้อกฎหมายยืนยัน ให้ “ธนาธร” ยุติหน้าที่ ส.ส.ก่อนเข้าสภาไม่ได้

กางข้อกฎหมายยืนยัน ให้ “ธนาธร” ยุติหน้าที่ ส.ส.ก่อนเข้าสภาไม่ได้

“ปิยบุตร” กางกฎหมายชี้แจง หลังมีข่าวศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ว่ารับหรือไม่รับคำร้อง กกต.เรื่อง “ธนาธร” ถือหุ้นสื่อขัดคุณสมบัติสมัคร ส.ส. หรือไม่ เผยต่อให้รับก็สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีไม่ได้ เพราะต้องมีกระบวนการขั้นตอน ขณะที่กฎหมายยังกำหนดให้เริ่มปฏิบัติหน้าที่หลังเข้าสภาไปปฏิญาณตน ตอนนี้จึงสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เพราะถือว่ายังไม่ได้เริ่ม

วันที่ 22 พ.ค. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงกรณีมีข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องของ กกต. ที่ขอให้วินิจฉัยกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นสื่อในวันที่ 23 พ.ค. ว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่ากรณีของนายธนาธร ใช้เวลาเพียง 53 วันนับตั้งแต่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบ จนถึงวันที่ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ หากเทียบกับกรณีที่มีข้อเท็จจริงคล้ายกัน คือการที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องกรณีคู่สมรสของนายดอน ปรมัตวินัย รมว.ต่างประเทศ ถือหุ้นสื่อ ใช้เวลาทั้งหมด 417 วัน เห็นได้ว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง นี่คือมาตรฐานการทำงานของ กกต.ที่พรรคอนาคตใหม่ขอตั้งคำถามดังๆ รวมทั้งเรื่องการที่ กกต.ไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจงก่อนซึ่งเชื่อว่า หากให้ชี้แจงอาจจะไม่ต้องตั้งข้อกล่าวหาเรื่องนี้ด้วยซ้ำ

 

นายปิยบุตร ยังย้ำว่า กกต.ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะหากตรวจสอบในฐานะผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ กฎหมายกำหนดให้ตรวจสอบได้ถึงก่อนวันเลือกตั้งคือ 23 มี.ค. หรือหากตรวจในสถานะที่เป็น ส.ส. แล้ว ซึ่งนับตั้งแต่ 24 มี.ค. ที่เป็นวันเลือกตั้ง ก็ต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 24 มี.ค. เป็นต้นไป เรื่องนี้มีปัญหาเพราะ กกต.ไม่ยอมรับว่าไม่มีอำนาจแต่พยายามตรวจสอบโดยหาช่องทางต่างๆ ปนกันไปมา

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่า การโอนหุ้นของนายธนาธรมีผลสมบูรณ์ทางกฎหมายแล้วตั้งแต่ 8 ม.ค. 2562 ดังนั้น วันที่ไปสมัครเลือกตั้งไม่ได้ถือหุ้นสื่อแล้ว จึงไม่มีลักษณะต้องห้ามในการเป็นผู้สมัคร ส.ส. โดยยึดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 และแนวคำพิพากษาศาลฎีกายืนยันว่าโอนหุ้นไปหมดแล้ว

ส่วนขั้นตอนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ว่ารับเรื่องแล้วจะวินิจฉัยทันที จะต้องมีเปิดกระบวนพิจารณา ซึ่งมีขั้นตอนคือ ศาลจะตั้งองค์คณะชุดเล็กเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องหรือไม่ แล้วภาย ใน 15 วันจะมีคำสั่งออกมาว่ารับหรือไม่รับ ซึ่งหากเป็นตามข่าวคือ 23 พ.ค.

ถ้าหากไม่รับองค์คณะชุดเล็กจะส่งไปให้คณะใหญ่ แต่หากวินิจฉัยว่ารับไว้พิจารณา กระบวนการก็จะดำเนินต่อโดยต้องเปิดโอกาสให้คู่กรณีมาขี้แจงภายในระยะเวลา 15 วัน ซึ่งถ้าหากพรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ วันที่ครบกำหนดชี้แจงคือวันที่ 8 มิ.ย.

ส่วนกรณี มาตรา 82 (2) ของรัฐธรรมนูญที่ว่า “เมื่อได้รับเรื่องไว้พิจารณา หากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สมาชิกผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย…”
ศาลจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีไม่ได้ และหากจะสั่งต้องเป็นกรณีที่มีเหตุเกิดความเสียหายต่อส่วนรวม ดังนั้น พรุ่งนี้ (23 พ.ค) ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับคำร้องของ กกต. ไม่มีทางที่ศาลฯ จะมีคำสั่งให้นายธนาธรหยุดการปฏิบัติหน้าที่ เป็น ส.ส.ได้อย่างแน่นอน เพราะต้องให้เวลาชี้แจงและต้องมีมูลเหตุ และตามกฎหมายนายธนาธร มีสถานะเป็น ส.ส.แต่ยังไม่เริ่มปฏิบัติหน้าที่เพราะยังไม่ได้ปฏิญาณตนก่อนตามกฎหมาย เมื่อยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่สามารถมีคำสั่งใดๆ ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง