
วันที่ 18 ม.ค. ที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต พรรคอนาคตใหม่ จัดงาน Future is Now อย่ากลัวอนาคต
.
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวเรื่อง พิมพ์เขียวประเทศไทย & อนาคตใหม่ชาติ ว่า ประเทศไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีระบบเศรษฐกิจแบบประชารัฐ 3 ขา คือ
– กลุ่มทุนใหญ่กำหนดทิศทางประเทศ
– เปิดเสรีให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน
– สงเคราะห์คนยากไร้ให้อยู่ได้ผ่านกลไกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
.
โมเดลแบบนี้ ตนมองว่าจะนำไปซึ่ง การผูกขาดมากขึ้น, ประเทศไทยเติบโตอย่างไร้เทคโนโลยี, ความเหลื่อมล้ำรุนแรงขึ้น และ การกดทับเสรีภาพ เป็นอุปสรรคต่อการพัมนามนุษย์และนวัตกรรม

แนวทางพิมพ์เขียวบริหารเศรษฐกิจที่ตนเห็นว่าเราจะต้องมุ่งไปคือ
– ประชาชนมีงานคุณภาพ สวัสดิการสร้างความมั่นคงในชีวิต เป็นเจ้าของเทคโนโลยีแข่งขันได้เท่าทันโลก
– เข้าถึงบริการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมกัน มีความเสมอภาค สิทธิเสรีภาพ ได้รับความยุติธรรม
– สังคมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและความหมาย ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการบริหารความท้าทายระดับโลก

การจะไปถึงจุดนี้ต้องแก้ปัญหาในปัจจุบัน ซึ่งถ้าดูเรื่องเศรษฐกิจ จีดีพี มูลค่าของระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน
– การบริโภคภาคเอกชน พบว่า ยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
– การลงทุน ด้านใหญ่ที่สุดของไทย คือ ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ไม่สามารถพาประเทศไปไกลกว่านี้ได้แล้ว เพราะอิ่มตัวแล้ว จะไม่สามารถทำให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่และจ้างงานมหาศาลได้แล้ว ทำได้เพียงรักษาฐานเดิมไว้ เติบโตได้เพียงทีละเล็กทีละน้อย
– การส่งออกสุทธิ สงครามการค้าส่งผลต่อส่งออกสุทธิ 9 เดือน ปี 2562 เทียบกับปี 2561 ลดลงถึง 2.6 %

เมื่อเครื่องยนต์ 3 ตัวนี้ตัน เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจเหลือเพียงการใช้จ่ายภาครัฐ ต้องการ G ตัวใหญ่มาก ในระยะสั้น การผลักดันการใช้จ่ายที่ทำให้ทุกตัวกลับมาคึกคักมีชีวิตชีวา การใช้จ่ายต้องไม่ใช้เบี้ยหัวแตก จัดนิทรรศการ ไม่ใช่งบดำเนินการของราชการที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชน
.
เราต้องการอุตสาหกรรมใหม่ เอาปัญหาปัจจุบันมาสร้างดีมานด์ เอาดีมานด์สร้างอุตสาหกรรมใหม่ เอาอุตสาหกรรมใหม่สร้างเทคโนโลยีของตนเอง ประเทศที่จะรวยได้ ต้องมีเทคโนโลยีของตนเอง เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ไม่ใช่รอเพียงการลงทุนและพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ

นายธนาธร ยกแนวคิด Green Growth Model เศรษฐกิจกรีนเทค มีการกระจายงานดี,เทคโนโลยีของไทย, มูลค่าเพิ่มใหม่ และเศรษฐกิจไทยยั่งยืน โดยยกตัวอย่างการลงทุน รถไฟรางเบา ในหัวเมืองสำคัญ ขอนแก่น นครราชสีมา เชียงใหม่ ภูเก็ต รวม 1 แสนล้านบาท ซึ่งทุกวันนี้ยังมีแค่แผนยังไม่มีการจัดสรรงบให้ ถ้าลงทุนในส่วนนี้จะสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ต่อยอดออกไปมากมาย
.
เขายังเสนอพิมพ์เขียวการบริหารภาครัฐ ในเรื่องการทำงบประมาณส่วนที่ไม่ใช่ภาระผูกพันทางกฎหมาย ต้องเริ่มต้นออกแบบใหม่ทั้งหมด ตามปัญหาของประเทศ
.
การใช้จ่ายภาครัฐต้องกระจายออกไปถึงทุกคน ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองชนบท นำไปลงทุนเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ อย่าให้กระบวนการตัดสินใจอยู่ที่กรุงเทพฯ อย่างเดียว

เสนอพิมพ์เขียวการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยยกตัวอย่าง ค่ายเทคโนโลยีใช้งบประมาณที่ละ 40 ล้านบาท ถ้าลงไปได้ในทุกอำเภอทั่วประเทศไทย ให้คนของเราเท่าทันการเปลี่ยนแปลง แม้ต้องใช้งบประมาณ 28,000 ล้านบาท แต่เงินจำนวนนี้เท่ากับ เรือดำน้ำ 2 ลำ
.
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า หลังการเลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้เป็นรัฐบาลแต่ได้พยายามผลักดันเรื่องกฎหมายต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่พรรคประกาศไว้ สิ่งต่างๆ เมื่อเข้าสู่กระบวนการต้องใช้เวลา เพราะเรามี ส.ส.เพียง 80 คน เป็นงูเห่าไปแล้ว 4
.
ทุกอย่างที่เราคิดจะเป็นไปได้ก็ต้องมีพิมพ์เขียวทางการเมืองใหม่ จึงต้องจัดการโครงสร้างทางประชาธิปไตยใหม่ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง