ในช่วงที่ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โครงการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐอย่าง “คนละครึ่งพลัส” ถูกจับตามองในฐานะเครื่องมือสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มซึ่งได้รับผลกระทบจากอย่างต่อเนื่องจากภาวะที่ผู้บริโภครัดเข็มขัดจำกัดรายจ่ายในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจซึ่งสะท้อนผ่าน 2 ร้านอาหารต่างสไตล์อย่าง พาสต้า บ่? ร้านพาสต้าโฮมคิทเชนในกรุงเทพฯ ที่สร้างสถิติยอดขายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่าครึ่งแสน ซึ่งถือเป็นยอดที่สูงสุดนับตั้งแต่เปิดร้าน และ ‘มีลาภ’ อุบลราชธานี ร้านอาหารอีสานท้องถิ่น ที่สร้างสถิติร้านต่างจังหวัดที่ขายดีที่สุดในโครงการคนละครึ่งพลัสกับแกร็บฟู้ด
‘พาสต้า บ่?’ ปั้นพาสต้าเส้นสดรสชาติไทย สู่ความสำเร็จที่โตแบบดับเบิ้ลด้วย “คนละครึ่งพลัส”
ร้าน พาสต้า บ่? เริ่มต้นจากความตั้งใจของสองผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ยู – วรัญญู บุญอาจินต์ และ ณน – คณิน วัฒนสุข ที่เริ่มตั้งร้านด้วยการเปิดรับพรีออเดอร์จากหลักสิบกล่องในปี 2565 จนกลายเป็นร้านพาสต้าเส้นสดที่ได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้าบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีในปัจจุบัน ภายใต้คอนเซปต์ “พาสต้าเส้นสด ราคาจับต้องได้”

เมนูของทางร้านโดดเด่นด้วยการผสมผสานรสชาติไทยเข้ากับตะวันตกอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น เมนูซิกเนเจอร์อย่าง “เพสโต้สเต็กไก่ย่าง” หรือเมนูสร้างสรรค์ใหม่ที่ใส่รสชาติความเป็นไทยเข้าไปอย่าง “อาริบิอาต้าปลาร้าบอง” ช่วยสร้างความแตกต่างทำให้ร้านเป็นที่จดจำได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถสร้างยอดสั่งซื้อเฉลี่ยได้มากกว่า 100 ออเดอร์ต่อวัน หัวใจสำคัญคือการดำเนินธุรกิจแบบเดลิเวอรี 100% โดยเน้นสร้างความยืดหยุ่นให้ลูกค้าสามารถคัสตอมเมนูได้ตามใจชอบ พร้อมทั้งนำข้อมูลเมนูคัสตอมที่มีการสั่งซื้อซ้ำบ่อยครั้งมาต่อยอดเป็นเมนูใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เสมอ
การตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” กับแกร็บฟู้ด ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้ร้าน พาสต้า บ่? เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยตลอดระยะเวลาโครงการฯ สามารถสร้างสถิติยอดขายเฉลี่ยต่อวัน สูงกว่าครึ่งแสนบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เปิดร้านมา โครงการนี้ไม่เพียงช่วยให้ลูกค้าประจำตัดสินใจสั่งซื้อได้บ่อยขึ้น แต่ยังเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าใหม่กล้าเปิดใจลองร้านพาสต้าเส้นสดได้ง่ายกว่าเดิม

“ลูกค้าหลายคนอาจอยากลองร้านเราอยู่แล้ว พอมีคนละครึ่งพลัสก็ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น สิ่งสำคัญคือการเตรียมระบบและทีมให้พร้อมรองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น รักษามาตรฐานความอร่อยให้คงที่เพื่อให้ลูกค้าใหม่มีความประทับใจและไม่ทำให้ลูกค้าเก่าผิดหวัง นอกจากนี้ในช่วงเดือนที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ เรามองเห็นโอกาสจากกลุ่มลูกค้าที่ขยายตัว โดยเราเห็นความต้องการใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้นผ่านเมนูคัสตอมที่ลูกค้าออเดอร์เข้ามา ซึ่งทางร้านสามารถนำไปต่อยอดเพื่อสร้างสรรค์เมนูใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้าของเราได้ในอนาคต”
“มีลาภ” ยอดขายสูงสุดในต่างจังหวัด ด้วยระบบจัดการ Seamless และอานิสงส์จาก “คนละครึ่งพลัส”
ร้านอาหารอีสานท้องถิ่นที่เล่าเรื่องรสชาติบ้านเฮาในมุมมองใหม่ ‘มีลาภ’ คือร้านอาหารอีสานในจังหวัดอุบลราชธานี ที่เกิดจากความตั้งใจของ โจ – ณรงค์ศักดิ์ คงทิม และ กิจ – วรกิจ อำภะรัตน์ เป็นคนอีสานที่อยากนำเสนออาหารอีสานรสดั้งเดิมให้เข้าถึงง่ายขึ้น โดยยังคงกลิ่นอายและรสชาติแบบอีสานแท้ ผสมผสานกับความร่วมสมัย แม้จะเป็นร้านขนาดเล็ก และตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่โดดเด่นนักในสไตล์ “ร้านลับ” แต่ด้วยรสชาติที่จริงใจและความพิถีพิถันในทุกจาน ทำให้ ‘มีลาภ’ สามารถสร้างฐานลูกค้าประจำได้อย่างเหนียวแน่น

เมนูเด็ดอย่าง ก้อยเสือคั่ว ซกเล็ก ลาบเป็ด ส้มตำ และอีกหลากหลายเมนู กลายเป็นเหตุผลที่ลูกค้ากลับมาซ้ำอย่างต่อเนื่อง ในด้านการบริหารจัดการ ร้านเลือกใช้ระบบ POS เพื่อดูแลออเดอร์หน้าร้าน และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรีแกร็บฟู้ดอย่างเป็นระบบ ช่วยให้การจัดการออเดอร์รวดเร็ว ลดความผิดพลาด และรองรับยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ยอดขายผ่านแกร็บฟู้ด เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงโครงการคนละครึ่งพลัสที่ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า เรานำข้อมูลหลังบ้านมาช่วยวางแผนทั้งช่วงเวลาเร่งด่วน ปริมาณออเดอร์ และการเตรียมวัตถุดิบ ทำให้สามารถรับออเดอร์จำนวนมากได้ง่ายขึ้น และบริหารร้านได้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น” คุณโจกล่าว

ความสำเร็จของร้าน ‘มีลาภ’ สะท้อนผ่านการสร้างสถิติเป็นร้านอาหารในต่างจังหวัดที่ทำยอดขายได้สูงสุดในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” กับแกร็บฟู้ด เคล็ดลับสำคัญคือการเตรียมความพร้อมของทีมงานบวกกับการจัดการระบบแบบ Seamless ที่เชื่อมโยงออเดอร์จากแกร็บฟู้ดตรงเข้าสู่ครัวทันที ความราบรื่นนี้ช่วยให้ร้านจัดการออเดอร์ทั้งหน้าร้านและเดลิเวอรีได้โดยไม่มีสะดุด ส่งผลให้ฐานลูกค้าใหม่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในเดลิเวอรีและลูกค้าที่ตามมาทานที่ร้าน ความสำเร็จอย่างในครั้งนี้ยังกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้คุณโจวางแผนเตรียมขยายร้านสาขาที่สองในเร็วๆ นี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โครงการ คนละครึ่งพลัส: เร่งดีมานด์ที่ต่อยอดได้จริง
กรณีศึกษาของร้าน พาสต้า บ่? และ มีลาภ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า โครงการ “คนละครึ่งพลัส” สามารถเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงเวลาสำคัญได้จริง และยังเป็นบทพิสูจน์ว่าเมื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผสานเข้ากับการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างการเข้าถึงให้ผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีอย่าง แกร็บฟู้ด จึงเกิดเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กได้จริง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในระยะยาวไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ช่วงเวลาของโครงการฯ เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความพร้อมของร้านอาหารในการบริหารจัดการระบบหลังบ้านให้มีประสิทธิภาพและการใช้ข้อมูลเพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นแรงส่งสำคัญที่เปลี่ยนดีมานด์ระยะสั้น ให้กลายเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกธุรกิจยุคใหม่ได้





![[ประมวลภาพ] Yunomori Onsen & Spa ร่วมกับ YPS Sister Pilates Club จัดกิจกรรม Wellcation in Pattaya](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimages.workpointtoday.com%2Fworkpointnews%2F2025%2F12%2F23151304%2F1766477582_786947-workpointtoday.webp&w=2048&q=75)




