ศาลปกครองสั่งคืนสิทธิ ‘ไกรเดช บุนนาค’ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.

ศาลปกครองสั่งคืนสิทธิ ‘ไกรเดช บุนนาค’ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.

BANGKOK2022

ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ กกต.รับ ‘ไกรเดช บุนนาค’ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หลังถูก กกต.กทม.ประกาศตัดสิทธิเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมาระบุมีลักษณะต้องห้ามจากการถือหุ้นสื่อ

 

วันที่ 18 พ.ค. 2565 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาโดยสั่งให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครรับนายไกรเดช บุนนาค เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 19

โดยศาลให้เหตุผลว่าการที่กกต.และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพฯ ไม่รับนายไกรเดชเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 โดยเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ไฮไลท์บันเทิง น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับหากให้ประกาศผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพฯ เรื่องบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ได้รับสมัครและไม่รับสมัครลงวันที่ 11 เม.ย.2565 ในส่วนที่ไม่รับสมัครนายไกรเดช มีผลใช้บังคับต่อไปจะทำให้นายไกรเดชไม่ใช่ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.และการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 22 พ.ค. 2565 ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิเลือกนายไกรเดชได้

หากต่อมาศาลพิพากษาว่าการไม่รับสมัครนายไกรเดชไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประชาชนไม่สามารถกลับมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายไกรเดชเป็นผู้ว่าฯ กทม.ได้อีก แม้นายไกรเดชจะสามารถเรียกค่าเสียหายในกรณีนี้ได้ แต่การได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะทำให้นายไกรเดชสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ว่าฯ กทม.สร้างผลงานต่างๆ เพื่อเป็นโอกาสในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ ซึ่งไม่สามารถใช้เงินไม่ว่าจำนวนเท่าใดเพื่อชดเชยโอกาสดังกล่าว การให้ประกาศผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครเรื่องบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ได้รับสมัครเลือกตั้งและไม่ได้รับสมัครเลือกตั้งลงวันที่ 11เม.ย.2565 ในส่วนที่ไม่รับสมัครนายไกรเดชมีผลใช้บังคับต่อไปจึงทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขภายหลัง

นอกจากนี้การให้นายไกรเดชเป็นผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.และผลเลือกตั้งปรากฏว่า นายไกรเดชได้รับเลือกด้วยคะแนนสูงสุด หากต่อมาศาลฯพิพากษาว่าการไม่รับสมัครนายไกรเดช เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วก็จะมีผลเพียง กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใหม่โดยสามารถเรียกให้นายไกรเดชชดใช้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดเลือกตั้งได้ การทุเลาการบังคับตามประกาศผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครเรื่องบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ได้รับสมัครเลือกตั้งและไม่ได้รับสมัครเลือกตั้งลงวันที่ 11 เม.ย.2565 ในส่วนที่ไม่รับสมัครนายไกรเดช จึงไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือบริการสาธารณะ

ส่วนที่ กกต.แย้งว่า คดีนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจพิจารณาวินิจฉัยของศาลปกครองนั้น กกต.ไม่ได้ทำคำร้องเป็นหนังสือยื่นต่างหากจากคำชี้แจงจึงไม่มีประเด็นให้ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล 2542 จึงมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามประกาศผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครเรื่องบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ได้รับสมัครเลือกตั้งและไม่ได้รับสมัครเลือกตั้งลงวันที่ 11เม.ย.2565ในส่วนที่ไม่รับสมัครนายไกรเดช และมติ กกต.ในการประชุมครั้งที่ 36/2565 เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2565 ในส่วนที่ยกอุทธรณ์ของนายไกรเดชไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

ก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางก็ได้มีคำสั่งลักษณะเดียวกันให้ กกต.รับนายพีรพล กนกวิลัย จากพรรคก้าวไกลเป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท หลังนายพีรพล ยื่นฟ้องว่าการที่ กกต.ตัดสิทธิไม่ประกาศให้ตนเองเป็นผู้สมัคร ส.ก.ด้วยเหตุว่าลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครโดยเป็นเจ้าของผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือท่องธรรมชาตินั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ที่มา https://www.thaipost.net/politics-news/143786/

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง