ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซีรีส์ไทยไม่ได้เป็นแค่ละครหลังข่าวอีกต่อไป แต่กลายเป็นสื่อที่สะท้อนสังคม ความฝัน ความรัก และความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยได้อย่างชัดเจน ด้วยการผลิตที่คุณภาพดีขึ้น และเนื้อหาที่หลากหลายให้ได้เลือกชม
ซึ่ง Leap Day วันแก้ตาย ถือเป็นซีรีส์ไทยแนวดราม่าระทึกขวัญ อีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตามอง กับการหยิบเรื่องราวของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ วันที่ 4 ปีจะมีสักหนึ่งครั้ง มาเล่าในมุมลึกลับกับปมปริศนาที่ตัวละคนทั้ง 4 ตัวอย่าง เดย์ (รับบบทโดย ปอนด์-ณราวิชญ์), ไนท์ (รับบทโดย ดิว-จิรวรรตน์), โอโซน (รับบทโดย กัน-อรรถพันธ์) เเละ ดรีม (รับบทโดย ป่าน-ปทิตตา) ต้องไขข้อสงสัยไปพร้อมกัน
หนึ่งในความน่าสนใจของตัวละครทั้ง 4 คือความแตกต่างแต่ลงตัวอย่าง ‘เดย์’ เเละ ‘ไนท์’ ตัวนำของเรื่อง แม้จะเกิดวันที่ 29 กุมภา เหมือนกัน แต่ช่วงเวลาต่างกัน เดย์ เกิดในช่วงเวลาเที่ยงวัน เเละ ไนท์ เกิดในช่วงเวลาเที่ยงคืน
เสริมด้วยตัวละคร ‘โอโซน’ พี่ชายของเดย์ เด็กพิเศษที่หลงใหลในดาราศาสตร์ ผู้ทำให้เราเห็นโลกผ่านมุมมองที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น และ ‘ดรีม’ เพื่อนสนิทของไนท์ ผู้เติมเต็มบรรยากาศของเรื่องด้วยพลังบวกและความสดใส ทั้งสองกลายเป็นมากกว่าตัวละครประกอบ แต่เป็นกุญแจสำคัญในการไขปมปริศนาของเรื่อง
งานนี้ทั้ง 4 คน ดิว, ปอนด์, กัน และ ป่าน จะมาพูดคุยถึงเบื้องหลังความท้าทาย ความสนุกในซีรีส์ ‘Leap Day วันแก้ตาย’ ว่าแต่ละคนมีมุมมองต่อบทบาท และโมเมนต์น่ารักๆ กับคำพูดแทนใจ ที่อยากฝากถึงตัวละคร นอกจากจะได้เห็นเคมีของทั้งสี่คนแบบเต็มๆ แล้ว ยังมีแง่มุมที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขาในซีรีส์เรื่องนี้

Q : คาแรคเตอร์แต่ละคนมีความยากหรือความท้าทายตรงจุดไหนบ้าง
ดิว จิรวรรตน์ : สำหรับผมความท้าทายอยู่ที่แบ็กกราวนด์ของตัวละครในเรื่องเลยครับ เพราะเรื่องนี้จะถูกเล่าในช่วงปี 2020 ซึ่งผมก็ต้องถ่ายทอดแบ็กกราวนด์ว่าตัวละคร ‘เดย์’ และ ‘ไนท์’ จะต้องแบกอะไรไว้ ก็คือ 20 ปีที่ผ่านมา พวกเราเจออะไรมาบ้าง ซึ่งในบทจะมีบอกว่าทุกๆ 4 ปีจะมีคนตาย แต่พวกเราจะทำอย่างไรให้คนเชื่อ
เลยเป็นความยากที่สุดของการรับบทเป็นตัวละครนี้ เพราะเหตุการณ์ในเรื่องก็แอบเกินความเป็นจริงไปเยอะครับ (หัวเราะ) คือจะทำอย่างไรให้ ตัวเองไม่หลุดจากความเชื่อนี้ คือตัวละครไม่ใช่ว่าตัวละครผ่านการสูญเสีย แต่ผ่านเรื่องนี้มาจนตัวละครเราเริ่มจะต้องชินกับความสูญเสียเหล่านั้น เริ่มจะต้องปรับตัวได้แล้ว
ปอนด์ ณราวิชญ์ : ส่วนผมก็ยากมากๆ กับบทเรื่องนี้ เพราะว่าค่อนข้างกดดันครับ ด้วยความที่ตัวละคร และแบ็กกราวนด์ต่างๆ เราก็รู้สึกว่าอยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า นักแสดงทุกคนและทีมงาน ทำกันอย่างเต็มที่มากๆ เพื่อให้ซีรีส์เรื่องนี้ออกมาดีครับ
กัน อรรถพันธ์ : กัน รับบทเป็น ‘โอโซน’ ด้วยตัวละคร โอโซน มีความเป็นเด็กพิเศษ ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับดาราศาสตร์ โดยเด็กพิเศษก็มีสเปกตรัมครับ ของ โอโซน ก็จะเป็นแบบที่สามารถทำอะไรเองได้บ้าง ซึ่งตอนแรกกันเองก็ยังไม่เข้าใจในตัวละคร จนได้ไปเวิร์คชอปกับปอนด์แล้ว ครูสอนการแสดง ทำให้เริ่มซึมซับครับ กันเลยคิดว่าความยากน่าจะอยู่ช่วงแรกๆ ที่เรายังไม่รู้ว่าเราจะต้องทำอย่างไรให้เข้าใจตัวละคร
ป่าน ปทิตตา : สำหรับป่าน ด้วยความที่โทนของเรื่องนี้ค่อนข้างดาร์ค เพราะฉะนั้นการหาพลัง ทั้งการเติมพลังให้กับตัวละคร เพราะว่าเป็นตัวละครของป่านต้องใช้พลังเยอะมากๆ กับการบาลานซ์ให้เข้ากับโทนเรื่อง จะได้ไม่รู้สึกว่าตัวละคร ‘ดรีม’ เด่นจนเกินไป หรือว่ามีความโดดออกมาจนไม่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญแล้วก็ท้าทายมากๆ ค่ะ

Q : ถ้าขอคีย์เวิร์ดที่บ่งบอกความเป็นตัวละครของตัวเองมากที่สุด
ดิว จิรวรรตน์ : คีย์เวิร์ดที่บ่งบอกความเป็น ไนท์ ของผมคือ ‘กลางคืน’ ครับ และคีย์เวิร์ด ‘ไม่เหลืออะไรแล้ว’ มีอีกหนึ่งคีย์เวิร์ดที่คล้ายๆ กันคือ ‘ผู้ชายที่ห่วย’ ครับ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เพราะช่วงที่เล่นฉากดราม่าจะมีคำนี้ขึ้นมาตลอด รู้สึกว่าเป็นคนที่ห่วย ปกป้องใครไม่ได้เลย ทำให้ทุกอย่างรอบตัวพังหมด
ปอนด์ ณราวิชญ์ : ด้วยความที่โทนเรื่องค่อนข้างเครียด ผมเลยคิดคีย์เวิร์ดที่บ่งบอกความเป็น เดย์ ไว้แบบสนุกๆ ครับ (หัวเราะ) คีย์เวิร์ดแรกเลยคือ ‘ลีน’ ครับ กับคีย์เวิร์ดที่สอง ‘กราม’ คีย์เวิร์ดที่สามคือ ‘ร้อนแรง’ และคีย์เวิร์ดที่สี่ผมเลือกเป็น ‘อบอุ่น’ ครับ สำหรับคีย์เวิร์ดสุดท้ายคือ ‘ไร้อารมณ์ ไรที่ติ’ (หัวเราะ)
กัน อรรถพันธ์ : สำหรับ โอโซน ผมเลือกคีย์เวิร์ดที่บ่งบอกความเป็นเขาไว้ อันแรกเลยคือ ‘ดาว’ ครับ คีย์เวิร์ดที่สองคือ ‘ไม่ชอบ’ คีย์เวิร์ดที่สาม ‘เป็นพี่’ เพราะโอโซนเป็นพี่ของเดย์ แล้วก็คีย์เวิร์ดที่สี่คือ ‘ไอศกรีม’ คีย์เวิร์ดสุดท้ายคือ ‘ไข่’ เพราะเดย์ชอบทำไข่ให้โอโซนได้ทานครับ
ป่าน ปทิตตา : คีย์เวิร์ดที่บ่งบอกความเป็น ดรีม ก็น่าจะเป็นคีย์เวิร์ดแรกเลยคือ ‘สีเหลือง’ เพราะเป็นความสดใสค่ะ คีย์เวิร์ดที่สองก็ ‘สว่าง’ ความหมายเดียวกัน คีย์เวิร์ดที่สาม ‘พลัง’ ค่ะ คีย์เวิร์ดที่สี่ก็น่าจะเป็น ‘ไดนามิก’ ส่วนคีย์เวิร์ดสุดท้าย ‘ขึ้นข้างบน’ เพราะก่อนเข้าฉากจะต้องดึงพลังขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นให้สุด

Q : ในฐานะนักแสดงได้รับอะไรจากคาแรคเตอร์ที่เราเล่นบ้าง
ปอนด์ ณราวิชญ์ : สำหรับผมเหมือนได้รับการปลดล็อกครับ ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างท้าทายและคาแรคเตอร์ยากมากๆ ตอนแรกผมค่อนข้างกลัว จะอย่างไรให้ออกมาเหมือนตัวละครมากที่สุด แต่เมื่อได้มีโอกาสเวิร์คช็อปกับได้ลองสวมคาแรคเตอร์ เหมือนได้ปลดล็อกสกิลการแสดงบางอย่างที่แบบที่ผมไม่เคยได้มาก่อน อย่างเช่นตัวละคร เดย์ จะมีความที่ค่อนข้างไปสุดเหมือนกันในคาแรคเตอร์ของตัวเอง คือ เดย์ กับ ไนท์ จะมีแบ็กกราวน์เหมือนกันแต่สองตัวละครกลับวางตัวต่างกัน ซึ่งเมื่อก่อนผมเองเวลาแสดงจะเป็นคนที่เหมือนไปไม่สุด แต่เดย์ทำให้ผมได้แบบสุดในเรื่องของด้านการแสดงเลยครับ
ดิว จิรวรรตน์ : เมื่อก่อนผมยอมรับว่าเป็นคนคิดเยอะ เพราะผมกลัวจะทำไม่ได้ แต่พอมาเรื่องนี้แบ็กกราวนด์หรือตัวบทซีรีส์เยอะมากครับ ซึ่ผมยอมรับว่าแบ็คกราวน์ทั้งหมดสมบูรณ์มาก แค่ผมอยู่ในจุดที่แค่รับ แบ็คกราวน์ของซีรีส์มาผมก็สามารถเล่นได้เลย ถ้าในเรื่องการแสดงผมเพิ่งรู้ว่าการทำหัวให้โล่งก็ไปได้ง่ายกว่าเหมือนกัน ร่างกายฟรีกว่า อารมณ์ผมก็ไม่ได้เตรียมว่าจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้เครียดมาก แต่ยอมรับเลยว่ามีหลายฉากในเรื่องที่พอได้เข้าฉากเเล้วสนุกมากกว่าที่ผ่านมา
เพราะเหมือนผมเพิ่งปลดล็อกด้วยครับ เมื่อก่อนการแสดงของผมเหมือนเพิ่งขับรถใหม่ๆ ขับไปกี่รอบก็กลัวชน พอผ่านการชนมาแล้วจนถึงเรื่องนี้ ผมเหมือนไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้กลัวชน ถอยอย่างไรก็ได้ ถ้าเป็นในเรื่องการแสดงนะครับ แต่อีกมุมหนึ่งที่ได้จากคาแรคเตอร์นี้เลยคือ ยิ่งเราเจอความทุกข์เยอะ ความสุขแค่นิดเดียว อาจจะสุขมากกว่าคนอื่นก็ได้นะ
กัน อรรถพันธ์ : การได้รับบทเป็น โอโซน รู้สึกว่าได้ลองทำอะไรที่ผมไม่เคยทำ ลองเล่นอะไรที่ผมไม่เคยเล่น บุคลิกภาพที่ปกติไม่ใช่ตัวเรา ทุกครั้งที่ได้ไปกอง เหมือนได้เจออะไรใหม่ๆ ว่านี่เเหละคือ โอโซน ซึ่งกันรู้สึกว่าได้รับความสนุกกับตัวละครของ โอโซน ทุกครั้งเวลาที่ไปกองถ่าย อีกอย่างหนึ่งที่กันรู้สึกเลย เวลาเข้าฉากกับทั้ง 3 คน พอเป็นฉากจริงจังทุกคนเต็มที่มาก ทำให้ผมรู้สึกว่า โอโซนเหมือนอยู่ถูกจุดเมื่อได้อยู่กับทุกคน จากที่กันได้ดูซีรีส์ตอนนี้มาถึง 5 ตอนแล้ว ซึ่งไปได้ดีมาก ทุกคนดูเข้ากันหมด
ป่าน ปทิตตา : ป่านรู้สึกว่าสิ่งที่ได้คือมุมมองค่ะ เพราะ ดรีม เป็นตัวละครที่ลักษณะนิสัยทั้งภายนอกและความคิดตรงข้ามกับตัวป่านแบบคนละขั้วเลย ก็เลยต้องไปหาข้อมูลหรือเตรียมแบ็กกราวนด์ให้ตัวเอง ตั้งแต่วิธีคิด วิธีการมองโลกของตัวละคร ซึ่งบางอย่างก็ทำให้รู้สึกว่าการเป็นคนที่ไม่ซับซ้อนมาก ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ฉลาด เขาอาจจะฉลาดกว่าเราก็ได้ แต่ขาไม่ได้อยากทำอะไรให้ยุ่งยาก เหมือนกับป่าน อาจจะทำให้ป่านลดมุมมองอะไรบางอย่างลงไปได้ และทำให้เราใช้ชีวิตแบบสบายใจขึ้น
กับอีกอย่างหนึ่งเหมือนที่พี่ดิวบอกเลยก็คือ เมื่อก่อนเวลาถ้าจะแสดงป่านเป็นคนที่เตรียมทุกอย่างให้พร้อม ให้เป๊ะ ทำให้กลายเป็นกรอบว่า เราจะทำได้ดีในลิมิตที่เราวางไว้ แต่ถ้าเราลองใช้ความรู้สึก ใช้ใจลงไปเล่นจริงๆ บางทีเราอาจจะค้นพบอะไรที่ เกินกว่า ตอนเราอ่านบทครั้งแรกแล้วเราคิดก็ได้ค่ะ

Q : สิ่งที่อยากบอกกับตัวละครมากที่สุด
ดิว จิรวรรตน์ : อยากบอกกับไนท์ว่า ‘มึงโคตรซวยเลยวะ’ มีแต่คำว่าสงสารจัง หรือ ยากจังชีวิต
ปอนด์ ณราวิชญ์ : อยากบอกกับเดย์ว่า ‘รันทดสุดๆ’ ด้วยความที่เราทุกคนอยู่กับคาแรคเตอร์นี้มานาน ผมพูดจากใจจริงจากที่ผมได้มีโอกาสรับบทเป็น เดย์ ผมรู้สึกว่า ชีวิตเขาน่าสงสารมาก จะมีใครที่รันทดขนาดนี้ คิดเอาแล้วกันว่า คนที่รักต้องตายทุกๆ 4 ปี ทั้งเดย์และไนท์ปมแน่นมาก ขนาดมีคนตายทุก 4 ปียังไม่พอ เมื่อมีคนรอดแล้ว ก็ยังต้องลุ้นต่ออีกว่าคนที่เรารักรอบตัวจะรอดอีกมั้ย ผมรู้สึกว่าชีวิตนี้จะทำอะไรมีความสุขได้ก็ต้องมานั่งกังวลตลอดว่า ถ้าถึงวันนั้นคนรอบตัวเราจะมีใครเสียชีวิตอีกมั้ย
กัน อรรถพันธ์ : สำหรับ กัน ได้เข้ามาเล่นเป็นโอโซน รู้สึกว่าโอโซนเป็นคนน่ารัก ที่จริงโอโซนเป็นคนที่โชคดีมากๆ อาจจะมีโชคร้ายเรื่องอื่น แต่ก็โชคดีมากเหมือนกันที่ได้มีน้องเป็นเดย์ เพราะว่าเดย์ดูแลโอโซนเป็นอย่างดี ใครได้ดูจนจบก็จะรู้ว่า โอโซน โชคดีแค่ไหนที่ได้เดย์มาเป็นน้องชายครับ
ป่าน ปทิตตา : ป่าน อยากบอกกับตัวละครดรีมว่า อยากให้ทำอะไรระวังมากกว่านี้นิดนึง รักตัวเองมากกว่าที่รักเขาสักหน่อย เพราะว่าเดี๋ยวเรื่องเล่าไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่าดรีมยอมเพื่อไนท์ขนาดไหน ถึงแม้ว่าป่านจะตีความดรีมไว้ว่าเป็นคนที่ค่อนข้างหัวไวแล้วก็ฉลาด แต่ว่าจากหลายการกระทำ ตอนที่ได้อ่านบทรู้สึกว่า ด้วยความที่เขาก็ยังเป็นเด็กอายุ 20 ปี เหมือนกับเรา ก็ยังมีความไม่รอบคอบหรือบางครั้งที่ดรีมพยายามจะช่วยเขาแก้ปัญหา แต่ว่ากลายเป็นว่า ดรีมลืมมองบางจุดไป ความใจร้อนของดรีมมันจะทำให้เรื่องมันยิ่งเลยเถิดหรือเปล่า

Q : สุดท้ายแล้ว ฝากข้อความถึงแฟนๆ แล้วก็ฝากผลงานกันสักนิด
ดิว จิรวรรตน์ : ก็ดูเถอะครับ ได้โปรด (ยิ้ม)
ป่าน ปทิตตา : อันนี้คือขอร้องหรือบังคับ (หัวเราะ)
ปอนด์ ณราวิชญ์ : อันนี้เหมือนสั่ง (หัวเราะ)
ดิว จิรวรรตน์ : ไม่ใช่หรอกครับ ก็สุดชีวิตแล้วครับ ที่ผ่านมาผมว่าเรื่องนี้ผมก็พัฒนามากสุดแล้ว ถ้ามีจุดผิดพลาดอะไร สกิลผมตอนนี้กับประสบการณ์แค่นี้ ผมก็บอกเลยว่าผมได้แค่นี้แหละ (หัวเราะ)
ปอนด์ ณราวิชญ์ : จริงๆ ในสิ่งที่เราเจอมาทั้งชีวิตนี้ ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหนื่อยที่สุด แต่ทุ่มสุดตัวที่สุด นักแสดงทุกคนตั้งใจมากๆ อยากทำให้ดี และเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของผมเลย ที่ได้เปิดโลก ยิ่งผมกับดิว เราเป็นนักแสดงใหม่ ก็อยากเปิดโลกในเรื่องของการแสดงมากขึ้น ให้คนข้างนอกที่ไม่ใช่แฟนคลับของเราได้คอยติดตาม ยังไงก็อยากฝากซีรีส์เรื่อง Leap Day วันแก้ตาย ด้วยนะครับ ผมและทุกคนตั้งใจ แล้วก็อยากให้ได้ถูกพูดถึง อาจจะไม่ต้องชอบพวกเราก็ได้แต่อยากให้ชอบเรื่องนี้
กัน อรรถพันธ์ : อยากให้คนได้เห็นผลงานของพวกเรา กับซีรีส์แนวนี้ครับ สำหรับ Leap Day วันแก้ตาย เพราะรู้สึกว่าเป็นอีกแนวหนึ่งที่ ตัวกันเองไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าคนจะชอบหรือไม่ชอบ แต่ตอนที่ได้อ่านบท และได้สวมคาแรคเตอร์ รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าติดตามแล้วก็สนุกมาก อยากให้ทุกคนช่วยกันแชร์ กับใครที่อาจจะไม่ใช่แฟนคลับเราแบบที่ปอนด์บอก ก็อยากให้ได้ดูกัน สำหรับ Leap Day วันแก้ตาย
ป่าน ปทิตตา : ก็เหมือนที่พี่ทุกคนบอกเลย อยากให้เรื่องนี้ไปได้ไกล เพราะว่าจริงๆ ตั้งแต่ตอนอ่านบทคือ ตั้งต้นมาดีอยู่แล้ว ตั้งแต่คอนเซ็ปต์ บท แล้วมาเจอภาพอีก ก็อยากให้ทุกคนสนับสนุนเรื่องนี้กันเยอะๆ เพราะว่าทุกการสนับสนุนของทุกคนมันมีความหมายกับเรา มีความหมายกับพี่ทีมงานมากจริงๆ








![[ประมวลภาพ] เหนือคำบรรยายสมการรอคอย ใน “Omoinotake One Man Live in Taipei & Bangkok”](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimages.workpointtoday.com%2Fworkpointnews%2F2025%2F12%2F18194713%2F1766062032_006495-workpointtoday.webp&w=2048&q=75)

