
“มงคลกิตติ์” บุกพบ “รองฯ สุรพล” ยื่นเรื่องร้องเรียนโรงงานกำจัดขยะพิษ จ.สระบุรี
นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับการประสานจาก นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ว่าได้นำตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ และชาวบ้านผู้เดือดร้อนกว่า 15 คน มายื่นหนังสือเพื่อขอให้ตรวจสอบโรงงานฝังกลบขยะแห่งหนึ่งในเขตจังหวัดสระบุรี ซึ่งประกอบกิจการก่อเหตุเดือดร้อนเรื่องน้ำเสียและกลิ่นเหม็นให้กับประชาชนบริเวณโดยรอบโรงงานมาหลายปี
ซึ่งภายหลังจากรับฟังปัญหาและข้อมูลจากการลงพื้นที่ของคณะนายมงคลกิตติ์ กระทรวงฯ ได้สั่งให้ตั้งคณะทำงานโดยมีผู้แทนสี่ฝ่าย คือ
- ภาครัฐ มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข
- ภาคประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
- ภาคเอกชน เช่น โรงงาน
- สถาบันการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาจากการประกอบกิจการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ของจังหวัด
หากพบการกระทำความผิด กระทรวงฯ จะสั่งการตามกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 อย่างเด็ดขาด และ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อลงพื้นที่ในวันจันทร์นี้ (8 กรกฎาคม 2562) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็น ส่วนกรณีการลงพื้นที่ของคณะนายมงคลกิตติ์ และทีมงานที่ไม่ได้รับความสะดวก ได้มีการสั่งการให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี สอบถามโรงงานดังกล่าวเพื่อชี้แจงต่อไป

ด้าน นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า “ตนและคณะได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้เก็บข้อมูลจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และเข้าตรวจโรงงานฯ ซึ่งคณะไม่ได้รับความร่วมมือ พบรถบรรทุกจอดขวางทาง ต้องติดต่ออยู่นานกว่าจะได้เข้าโรงงาน จากการสำรวจหลุมฝังกลบขยะพบปัญหากลิ่นเหม็น แหล่งน้ำโดยรอบเน่าเสีย
ดังนั้น ตนจึงมายื่นหนังสือถึงกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมส่งข้อมูลทั้งหมด เพื่อขอให้ตรวจสอบมลภาวะทางอากาศ น้ำผิวดิน-ใต้ดินในพื้นที่รอบโรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตร รวมทั้งแหล่งน้ำตามธรรมชาติ โดยเร่งรัดตรวจสอบและแก้ไขปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมโดยเร็ว ตลอดจนเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ดำเนินคดี สั่งหยุดหรือปิดโรงงานหากพบการกระทำผิด”
ที่ผ่านมามีชาวบ้านจาก 3 ตำบล คือ ต.หนองปลาไหล ต.กุดนกเปล้า ต.ปากข้าวสาร ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สระบุรี ร้องเรียนบริษัทประกอบกิจการโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนมายาวนานหลายปี โดยมีผู้ร้องเรียนกว่า 300 คน และการประกอบกิจการอาจส่งผลกระทบต่อแม่น้ำป่าสักซึ่งเป็นลุ่มน้ำสำคัญ









