
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุฆ่า น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐีนีซึ่งมาซื้ออาคารพาณิชย์เพื่อเป็นที่พักเวลามาทำบุญที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โดยพบศพอยู่ในตู้เย็นภายในอาคาร เมื่อวันที่ 27 ต.ค. เพราะพี่ชายมาตามหา หลังน้องสาวขาดการติดต่อไปมากกว่า 1 สัปดาห์

วันที่ 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสืบสวนของเจ้าหน้าที่มีความคืบหน้าไปมาก โดยชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พบเบาะแสสำคัญ คาดว่าคนร้ายจะเป็นชายสองคน ขับรถบีเอ็มดับเบิลยูของผู้ตายนำบัตรเอทีเอ็มปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ก่อนขับรถไปยังจังหวัดเชียงราย วนเข้าจังหวัดลำปาง และกลับเข้าเชียงใหม่ หลังจากนั้นขับเข้าไปย่านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยหลังเกิดเหตุพบมีการนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดหลายครั้ง ครั้งละ 1-2 แสนบาท รวมทั้งหมด 1.2 ล้านบาท ล่าสุดพบว่ารถบีเอ็มดับเบิลยูของผู้ตายขับอยู่ย่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ติดตาม

อีกส่วนหนึ่งช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรจอมทอง เรียกประชุมทีมพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนเพื่อเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้าย โดยเบื้องต้นมีรายงานว่ามีความคืบหน้าในเรื่องของพยานหลักฐานมากขึ้นตามลำดับ ส่วนประเด็นการสังหารในครั้งนี้ตำรวจพุ่งเป้าไปที่การฆ่าชิงทรัพย์และความขัดแย้งส่วนตัว

สำหรับ น.ส.วรรณี ผู้ตายเป็นคนมีฐานะ ที่ผ่านมาได้บริจาคเงินทำบุญให้กับวัดพระธาตุศรีจอมทอง กว่า 2 ล้านบาท รวมทั้งยังบริจาครถตู้หรูให้กับทางวัด และ บริจาคสร้างตึกอาพาธสงฆ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีก 10 ล้านบาท ยังบริจาคเงินทำบุญช่วยเหลือบูรณะวัดต่าง ๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งอาจทำให้คนร้ายวางแผนฆ่าชิงทรัพย์ดังกล่าว
ขณะเดียวกันมีเบาะแสเพิ่มเติมว่า เวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ พบคนร้ายเป็นชายไปกดเงินของผู้ตายอีกบัญชีหนึ่งที่ตู้เอทีเอ็มใน จ.ระยอง อีกหลายหมื่นบาท ซึ่งบัญชีนี้พบว่า มีเงินในบัญชีทั้งหมด 40 ล้านบาท โดยคนร้านพยายามปิดบังใบหน้าและหลบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางที่รถขับผ่าน
อีกข้อมูลหนึ่งที่ยืนยันว่าหนึ่งในคนร้ายเป็นชาย คือ ในช่วงเช้าวันที่ 18 ต.ค. นายพงศกร เรือนแก้ว พนักงานดับเพลิง เทศบาลตำบลจอมทอง อ.จอมทอง ได้เข้าตรวจสอบบ้านของผู้ตาย หลังได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าผิดปกติและมีคราบเลือดและน้ำเหลืองไหลออกมาจากประตู นายพงศกรได้โทรศัพท์ไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของ น.ส.วรรณี ในเวลา 10.46 น. ปลายสายมีเสียงผู้ชายรับ อ้างตัวเป็นหลานนางสาววรรณี บอกว่านางสาววรรณีไม่อยู่ ไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศอินเดีย แล จะไปนานหลายสัปดาห์
เมื่อนายพงศกรได้แจ้งให้ทราบว่า ต้องการเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ชายดังกล่าวบอกว่าจะเข้าไปเปิดประตูบ้านให้ในเวลา 17.00 น. แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีใครมา นายพงศกรโทรศัพท์ไปอีกหลายครั้ง ไม่มีคนรับและปิดเครื่องไปในที่สุด ก่อนที่จะมาพบเป็นศพเมื่อวานนี้









