ที่รัฐสภาวันที่ 1 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 09.0 น. มีการอภิปรายวาระแรก ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กรอบวงเงิน 3,300,000 ล้านบาท โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงหลักการและความจำเป็น ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2564 โดยสรุปเป็นรายละเอียดของกรอบวงเงิน 3,300,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 19.6 ต่อ GDP เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 100,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้สุทธิ 2,677,000 ล้านบาท และวงเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณไว้ 623,000 ล้านบาท โดยเป็นการดำเนินนโยบายขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง

โดยเป็น รายจ่ายประจำ จำนวน 2,526,131.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76.5 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 122,437.4 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 รายจ่ายลงทุน จำนวน 674,868.2 ล้านบาท คิดเป็นรัอยละ 20.5 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 30,442.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ซึ่งอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ตามมาตรา 20 (1) แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้ต้องมีสัดส่วนไม่น้อยกว่ำร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี และต้องไม่น้อยกว่าส่วนที่ขาดดุลงบประมาณ จำนวน 623,000 ล้านบาท และ รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 99,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.0 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 9,829.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 11.0
คาดเศรษฐกิจไทยปี 2563 จะปรับตัวลดลงร้อยละ 5-6 โดยมีสาเหตุหลักจากสงครามทางการค้าและโควิด-19 ส่วนปี 2564 คาดจะขยายตัวร้อยละ 4-5 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลง ส่งผลไปถึงการส่งออก การท่องเที่ยว
ด้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เริ่มต้นการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยสรุปชี้เป็นการจัดงบที่ไม่ตอบโจทย์ ไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ต้องเผชิญ ยังมีวิธีจัดงบประมาณแบบเดิมๆ ไม่มีเป้าหมายลงทุนในอุตสาหกรรมที่ควรเป็นเป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งคำถามเรื่องการจัดงบประมาณเพื่อรองรับแรงงานตกงานจำนวนมหาศาล หลังสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้ง ไม่มีงบรองรับราคาพืชผลทางการเกษตร
“ไม่อยากเห็นนโยบายแจกเงินไปเที่ยว บัตรสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ โดยใช้ภาษีประชาชนเป็นทางผ่านของเม็ดเงินไปสู่กลุ่มทุนใหญ่” ผู้นำฝ่ายค้านในสภา ระบุ










