คณะกรรมการโอลิมปิกของแต่ละประเทศรวมถึงไทย มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนจากไฟเซอร์เพื่อฉีดให้นักกีฬาและทีมงานก่อนเดินทางไปแข่งโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น
วันที่ 6 พ.ค. 2564 เว็บไซต์นิกเกอิเอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า ไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทยาชื่อดังจากสหรัฐฯ และไบโอเอ็นเทค (BioNTech) ผู้พัฒนาด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ประกาศการเซ็น MOU (Memorandum of Understanding) กับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ในการบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อฉีดให้กับนักกีฬาและทีมงานที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.ค. – 8 ส.ค. นี้
ไฟเซอร์จะเริ่มจัดส่งวัคซีนอย่างเร็วที่สุดภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อที่นักกีฬาและทีมงานจะได้ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสก่อนที่จะเริ่มทำการแข่งขันในเดือนกรกฎาคม และการบริจาคครั้งนี้ยังรวมไปถึงผู้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ส.ค. – 5 ก.ย. อีกด้วย
ในขั้นตอนต่อไป IOC จะหารือกับคณะกรรมโอลิมปิกของแต่ละประเทศทั่วโลก และส่งมอบวัคซีนให้ตามที่แต่ละประเทศจำเป็นต้องใช้ โดยขั้นตอนในการฉีดวัคซีนจะขึ้นอยู่กับรัฐบาลของแต่ละประเทศ ซึ่งมีการอนุมัติวัคซีนแตกต่างกัน โดยคณะกรรมการจะไม่บังคับให้ผู้ที่เข้าร่วมต้องฉีดวัคซีนก่อนมาถึงญี่ปุ่น และการฉีดวัคซีนจะต้องเคารพลำดับการจัดการของประเทศนั้นๆ
โธมัส บาช ประธาน IOC กล่าวในแถลงการณ์ว่า ทางคณะกรรมการขอเชิญชวนให้นักกีฬาและทีมงาน ที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมที่กำลังจะมาถึง ให้รับวัคซีนเพื่อเป็นแบบอย่าง ตามที่เวลาและสถานที่เอื้ออำนวย
ทางด้าน โรเบิร์ต เบอร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ กล่าวว่า การกลับมาของโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ แสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความสามัคคีและสันติภาพของโลก หลังจากที่ผ่านปีแห่งความโดดเดี่ยวและความสูญเสียมา ไฟเซอร์รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการมอบวัคซีนให้กับนักกีฬาและทีมงานของแต่ละชาติ
ตามรายงานระบุว่า ดีลนี้เกิดขึ้นระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างนายเบอร์ลากับนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ สึกะ ของญี่ปุ่น ที่นอกจากจะสามารถติดต่อซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ได้แล้ว ยังมีการพูดถึงโครงการบริจาควัคซีนให้ผู้มีส่วนร่วมในกีฬาโอลิมปิกอีกด้วย
โดยในการบริจาคครั้งนี้ ทางไฟเซอร์ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลทำให้วัคซีนที่แต่ละชาติสั่งจองไว้เกิดความล่าช้าอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี หากทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถใช้ฉีดให้กับนักกีฬาและทีมงานชาวไทยได้หรือไม่ เนื่องจากวัคซีนของไฟเซอร์ยังไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานโดยคณะกรรมการองค์การอาหารและยา หรือ อย. และยังไม่มีการมาขอขึ้นทะเบียน
โดยทาง อย. เคยให้ข้อมูลว่า ต้องใช้เวลา 30 วันในการพิจารณาขึ้นทะเบียน ซึ่งในกรณีนี้ แม้จะได้วัคซีนเข้ามาภายในสิ้นเดือนตามรายงาน แต่อาจจะติดขัดกับระเบียบที่ทำให้นักกีฬาและทีมงานในไทยยังไม่สามารถฉีดวัคซีนตัวนี้ได้










