“สนธิญา” สมาชิก พปชร. ร้อง ปอท.สอบ “แหม่มโพธิ์ดำ” ปมแฉ บอย กักตุนหน้ากาก

“สนธิญา” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ร้อง ปอท.สอบ เพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” หลังแฉบอย กักตุนหน้ากาก 200 ล้านชิ้น ชี้ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนนำมาเผยแพร่ ยืนยันไม่มีใบสั่งให้ดำเนินการ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 11 มี.ค.63) นายสนธิญา สวัสดี  สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหลักฐานที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  (บก.ปอท.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเพจเฟซบุ๊กชื่อ “แหม่มโพธิ์ดำ” ในเรื่องว่าโปรไฟล์ที่ไม่ชัดเจน ไม่มีรูปที่เป็นปัจจุบัน ไม่มีสถานที่ติดต่อชัดเจน ซึ่งที่ผานมาได้ติดตามการทำงานของแหม่มโพธิ์ดำมาโดยตลอด แต่เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ในเรื่องการโพสต์ว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ เพราะประเทศไทยมีโรงงานหน้ากากอนามัย 13 โรงงาน ผลิตได้วันละ 120,000 ชิ้น   เดือนละ 36 ล้านชิ้น ใครก็ตามสามารถเก็บหน้ากากอนามัยได้ 200 ล้านชิ้น จะต้องซื้อหน้ากากจาก 13 โรงงานถึง  6 เดือน หากมีหน้ากากจำนวน 200 ล้านชิ้นจะต้องซื้อตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา  นี่คือเอกสารหรือข้อมูลที่เป็นเท็จและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  แม้ว่าแหม่มโพธิ์ดำจะบอกว่านำข้อมูลบางส่วนมาจากนายบอย  แต่ข้อมูลนั้นเมื่อนำสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้ว  ประชาชนรับทราบ  นำมาวุ่นวายมาสู่ประชาชน การกระทำดังกล่าวอยากเรียกร้องให้แหม่มโพธิ์ดำต้องชัดเจนทุกอย่าง เพราะประเทศไทยมีความวุ่นวาย  การกระทำสิ่งใดของให้อยู่ในความเป็นจริง

นายสนธิญา ย้ำอีกว่า การมาในวันนี้เพื่อ ขอให้ ปอท.ตรวจสอบข้อมูลที่ลง ว่าใครคือแหม่มโพธิ์ดำ  จากนั้นเมื่อรู้ตัวแล้ว ตนจะมาแจ้งความว่าลงข้อมูลอันเป็นเท็จ เบื้องต้นได้นำหน้าเพจแหม่มโพธิ์ดำ มาเป็นหลักฐาน  การมาในวันนี้ไม่มีใบสั่งให้ดำเนินการเรื่องนี้ เพราะหลังเกิดเรื่องไม่เคยคุยกับตัวแทนของรัฐบาล ผู้บริหารพรรคการเมือง และรัฐมนตรีช่วยว่าการประทรวงเกษตร  ว่าจะดำเนินการ เพราะเห็นว่าสถานการณ์วุ่นวาย ต้องการความถูกต้องและชัดเจน

“รวมทั้งกรณีแหม่มโพธิ์ดำ ได้รับบริจาคเงินเกือบ 1 ล้านบาท และจัดหาหรือซื้อหน้ากากอนามัยในคืนเดียวได้จำนวน 25,000 ชิ้นจริงหรือไม่ ถ้าสามารถหาหน้ากากได้จำนวนดังกล่าวภายใน 1 คืน ทั้งที่เป็นสิ้นค้าคุ้มครอง ห้ามกักตุน ห้ามขายเกินราคา คุณเอามาจากตรงไหน” นายสนธิญา กล่าว

นอกจากนี้ นายสนธิญา กล่าวอีกว่าแม้แหม่มโพธิ์ดำ จะนำเอาข้อมูลหรือคลิปของนายบอยมาโพสต์ ก็ควรที่จะตรวจสอบก่อน ว่าข้อมูลเป็นเท็จหรือไม่มาเผยแพร่ทางคอมพิวเตอร์ แม้ข้อมูลที่เปิดเผยมาจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่ในเนื้อหาจะต้องเป็นจริงด้วย  โดยเฉพาะข้อมูลหน้ากาก 200 ล้านชิ้น ไม่ใช่ไปเอาของนายบอยมาเปิดเผยทั้งที่ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน  ซึ่งอาจใช้วิธีการชี้เบาะแส หรือให้สื่อหาความจริงต่อไป การจะลงข้อมูลใด ๆ ในเพจหรือเฟสบุ๊คขอให้มีความชัดเจน คำนึงถึงความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตามการจะเป็นผู้เปิดโปงแบบนี้ควรที่จะเปิดหน้าให้ชัดเจนอย่างที่ตนร้องในเรื่องอื่นๆ หรือรวมถึง นายศรีสุวรรณ จรรยา ก็ร้องเรียนด้วยความชัดเจน

ทั้งนี้ นายสนธิญา ยังฝากถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ปรับ ครม. ซึ่งตนเห็นว่าโดยมารยาทเป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรี พร้อมถามกลับว่า ในอดีตมีหน้าห้องของรัฐมนตรีคนหนึ่ง เคยมีข่าวพัวพันธ์เรื่องกัญชา และรัฐมนตรีคนนั้นได้ลาออกจากตำแหน่งไหม  และตอนนี้ก็ยังเป็น ส.ส. อยู่  ส่วนกรณีคณะติดตาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะมีคณะทำงาน คณะติดตามจำนวนมาก ซึ่งตนเองเข้าใจว่าจะทราบหรือไม่ทราบอยู่ที่หลักฐาน  แต่โดยส่วนตัวเชื่อโดยสุจริตใจว่ารัฐมนตรีจะไม่รู้รายละเอียดของคณะทำงานอย่างแน่นอน  และคาดว่าอีกสัปดาห์ความกระจ่างจะเกิดขึ้น