สสส. ยกระดับการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ สู่งานปั้นนวัตกรระดับชาติ ในงาน Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2023

สสส. ยกระดับการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ สู่งานปั้นนวัตกรระดับชาติ ในงาน Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2023

จากสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อาทิ การเตรียมพร้อมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ สถิติผู้ป่วยและเสียชีวิตก่อนวัย ด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ของคนไทย ที่พุ่งสูงติดอันดับ 1 ของโลก ตลอดจนการที่เพิ่งผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปเมื่อไม่นานนี้ ทำให้คนไทยหันมาใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น โดยนอกจากการออกกำลังกาย และทานอาหารมีประโยชน์แล้ว ยังมีความต้องการในเรื่องของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพด้วย เพื่อทำให้สุขภาพกายและใจดีขึ้นอย่างยั่งยืน สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ รวมถึงช่วยลดภาระด้านสาธารณสุข และเศรษฐกิจของประเทศได้ในอีกทางหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ สสส. จึงได้เดินหน้าจัดโครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ภายใต้ชื่อ ThaiHealth Inno Award มาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขาดโอกาสการเข้าถึง เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ แรงงานนอกระบบ รวมทั้งเป็นพื้นที่ให้นวัตกรไทยได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ เพราะโครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดประกวดนวัตกรรมและมอบรางวัลเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมพัฒนาศักยภาพให้ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ด้วย

ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา สสส. พยายามผลักดันสร้างนวัตกรไทยไปมากถึง 1,484 ทีม จากทั่วประเทศ และมีผลงานจำนวนไม่น้อยที่หลายคน หลายหน่วยงานนำไปใช้จริง

อย่างไรก็ตาม สสส. มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะผลักดันโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากโครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ภายใต้ชื่อ ‘ThaiHealth Inno Awards’ ตั้งแต่ปี 2560 สู่การยกระดับเป็นรางวัลระดับชาติ Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2023 เพื่อพัฒนานวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ สานพลังเครือข่ายกลุ่มคนทำงานด้านนวัตกรรม สร้างนวัตกร หัวใจสุขภาวะ โดยงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จมีนวัตกรรุ่นใหม่เข้าร่วมกว่า 250 ทีม และมีทีมที่ได้รางวัลรวมทั้งสิ้น 20 ทีม 

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรงสาธารณสุข ประธานในพีธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวด และผู้แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สสส. ได้รับความกรุณาจากท่านนายกรัฐมนตรีให้การประกวดนี้เป็นรางวัลระดับชาติเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพของทุกทีม นำความภาคภูมิใจมาให้กับสังคม และวงการสุขภาพของไทย เห็นได้จากความทุ่มเท และความพยายามของทั้งนักเรียน นักศึกษา นักคิด กลุ่ม Startup และกลุ่มภาคี สสส. ที่ร่วมกันคิดริเริ่มอย่างสร้างสรรค์ จนออกมาเป็นผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่ตอบโจทย์ตรงประเด็นสุขภาพคนไทย

“ขอบคุณ สสส. ที่ขับเคลื่อนสร้างนวัตกรมที่หลากหลาย เท่าเทียมทุกกลุ่มประชากร ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และสานพลังจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพขยายผล ต่อยอด และเกิดประโยชน์ต่อสังคมในมุมกว้างมากขึ้น นี่คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาประเทศ พัฒนาศักยภาพคนที่จะเป็นนวัตกร สนับสนุน และสร้างสรรค์สังคมสุขภาวะ ที่สำคัญคือการสร้างเครือข่ายกลุ่มคนทำงานสร้างเสริมสุขภาพ เป็นโอกาสที่จะต่อยอดไปสู่ระดับนานาชาติในอนาคต และนำไปสู่เป้าหมายของประเทศชาติ ในเรื่องของการสร้างความมั่นคง ควมเข้มแข็งของเศรษฐกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”

ด้าน รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม กรรมการกองทุน สสส. และประธานอำนวยการจัดประกวดฯ เผยว่า สสส. เล็งเห็นความสำคัญของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านนโยบาย สิ่งแวดล้อม การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน รวมถึงพฤติกรรมให้มีสุขภาวะครบ 4 มิติ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 10 ปีของ สสส. ในเรื่อง “การสนับสนุนงานวิชาการ และรังสรรค์นวัตกรรม” ผ่านการดำเนินโครงการ และกิจกรรมต่างๆ 

โดยงานในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อจุดประกาย สร้างเสริม และพัฒนาเยาวชนไทย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ให้เป็นนวัตกรสร้างเสริมสุขภาพ ที่มีทักษะความรู้ ต่อยอดผลงานให้เกิดขึ้นได้จริง และทำให้คนไทยมีสุขภาวะอย่างยั่งยืน โดยมีนวัตกรจำนวน 250 คน ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เข้าร่วมการประกวด และกิจกรรมพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ตลอด 4 เดือนเต็ม เช่น การสร้างเสริมสุขภาพ การสร้างความเข้าใจ ความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ กระบวนการพัฒนานวัตกรรม พัฒนาแผนธุรกิจ ต่อยอดผลงาน และแนวทางสร้างความยั่งยืน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ให้คำปรึกษาตลอดกิจกรรม 

“สสส. เชื่อมั่นว่านักเรียน นักศึกษา Startup และภาคี สสส. ที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ จะเป็นความหวังในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพในอนาคตได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ สสส. จะหารือกับรัฐบาลในการต่อยอดโครงการนี้ต่อไป ทั้งในเรื่องของการพัฒนานวัตกรรม และการต่อยอดไปสู่การทำธุรกิจ SMEs”

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำงานตลอด 22 ปี ที่ผ่านมาของ สสส. มุ่งเน้นแก้ไขต้นเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของคนไทย อย่างการจัดงาน ThaiHealth Inno Award ตลอดจนถึงงาน Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2023 ครั้งนี้ก็เช่นกัน ล้วนเกิดขึ้นเพราะเล็งเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพให้มีสุขภาวะที่ดีขึ้น จำเป็นต้องใช้ “นวัตกรรม” มาช่วยแก้ไขตั้งแต่ต้นเหตุ 

“การก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของ สสส. ไปพร้อมกับงานนี้ นับว่าเป็นหมุดหมายที่เหมาะสมกับการปรับเปลี่ยนบทบาทการทำงานให้ตอบโจทย์กับแก้ปัญหาสุขภาพยุคปัจจุบันให้มากยิ่งขึ้น ในรูปแบบการทำงานเชิงรุก วิเคราะห์ปัญหาที่ต้องเผชิญ สานพลังภาคีหานวัตกรรมใหม่ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าให้สังคมไทยในอนาคต”

ทั้งนี้ รายชื่อผู้ชนะการประกวดในประเภทต่างๆ มีดังนี้

1. ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย

รางวัลชนะเลิศ ทีม BLUE BLOOD TEAM (รร. ตากพิทยาคม) ผลงาน: Safety Town บอร์ดเกมสร้างความรู้ด้านความปลอดภัยทางถนน

ตัวแทนนักเรียนจากทีม BLUE BLOOD TEAM อธิบายที่มาของสิ่งประดิษฐ์นี้ว่า ”เป็นบอร์ดเกมที่ช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้เรื่องกฎจราจรให้กับน้องๆ อายุ 10-15 ปี เพราะประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงที่สุดในโลก และจากการสำรวจในพื้นที่จังหวัดตาก พบว่าเด็กวัยนี้เริ่มหัดขี่มอเตอร์ไซค์แล้ว ซึ่งวิธีการเล่นก็จำลองมาจากการใช้รถใช้ถนนจริง มีการสอดแทรกความรู้เรื่องกฎจราจรเข้าไป และมีแบบทดสอบความรู้ทั้งก่อนและหลังเล่น โดยพวกเราได้รับคำแนะนำมาจากกรมการขนส่งจังหวัดตาก และคุณครูที่ปรึกษาค่ะ” 

2. ประเภทอาชีวศึกษา (ปวช. หรือเทียบเท่า)

รางวัลชนะเลิศ ทีม New Poly Team V.2 (วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคลานนา เชียงใหม่) ผลงาน: บอร์ดเกม “No Suffer” อย่ารอเก้อ ให้ใครมาบูลลี่

“การบูลลี่ และการทะเลาะวิวาทที่ต่อเนื่องมาจากการบูลลี่ เป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยในวิทยาลัยของเรา เพราะเป็นวิทยาลัยขนาดใหญ่ มีนักศึกษาจากหลากหลายพื้นที่มาอยู่รวมกันกว่า 4,000 คน ก็เลยหยิบยกประเด็นนี้มาทำเป็นบอร์ดเกม โดยออกแบบและพัฒนามาจากบอร์ดเกมเศรษฐี และไกด์บุ๊คจากสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ โดยการเล่นก็จะจำลองสถานการณ์การถูกกลั่นแกล้งในรูปแบบต่างๆ และมีคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ”

3. ประเภทประชาชนทั่วไป และ Startup กลุ่มไอเดียนวัตกรรม

รางวัลชนะเลิศ ทีม AiHUB ผลงาน: AiHelp แพลตฟอร์มกะพริบตาของคนติดเตียง เพื่อสื่อสารกับคนดูแล

“ปัจจุบันผมเป็นผู้ดูแลผู้ติดเตียงอยู่ และมีปัญหาในเรื่องการสื่อสารกัน เพราะเขาไม่สามารถพูดคุยได้ ทำได้แค่หลับตาและลืมตา ก็เลยเป็นที่มาของนวัตกรรมนี้ครับ คือทำให้เขาสื่อสารกับผู้ดูแลได้ และช่วยเหลือตัวเองได้ แม้จะไม่มีผู้ดูแล ซึ่งเราพัฒนาเป็น AI จดจำดวงตา ที่เมื่อผู้ป่วยติดเตียงมองคำสั่งต่างๆ แล้วหลับตาค้างไว้ที่ช่องนั้นๆ ระบบก็จะส่งคำสั่งไปที่ LINE ของผู้ดูแลว่าผู้ป่วยต้องการอะไร และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือโปรแกรมนี้สามารถช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้เองด้วย”

“ผมและทีมดีใจมากครับที่ได้รับรางวัล แต่สิ่งที่ดีใจมากกว่านั้น คือการที่เราสามารถคิดและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่นำไปใช้กับคนที่เราดูแลได้จริงๆ ถ้าไม่มีโครงการนี้ ไม่มีคำแนะนำจากคณะกรรมการ ก็คงทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมาไม่ได้” หนึ่งในสมาชิกทีม AiHUB กล่าว

4. ประเภทประชาชนทั่วไป และ Startup กลุ่มต้นแบบนวัตกรรม

รางวัลชนะเลิศ ทีม CONCAVOO cushion ผลงาน: เบาะปรับเข้ากับโครงร่างพร้อมระบบเตือนเพื่อลดแรงกด

สมาชิกทีมบอกเล่าถึงแรงบันดาลใจว่า เบาะรองนั่งนี้เกิดจากการรับรู้ปัญหาของพิการที่สามารถเบิกเบี้ยคนพิการได้เพียงปีละ 800 บาท ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเบาะรองนั่งคุณภาพดีได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น แผลกดทับ เพราะเบาะกระจายน้ำหนักได้ไม่ดี โดยเฉพาะกับคนพิการที่ตัวใหญ่ และต้องนั่งอยู่กับที่เดิมนานๆ เป็นต้น ดังนั้นทีมจึงคิดค้นเบาะที่ช่วยกระจายแรงกดได้ดีขึ้น โดยออกแบบให้เข้ารูปกับก้นของแต่ละคนได้ และใช้วัสดุคุณภาพดี จำหน่ายในราคาที่ผู้พิการจ่ายไหว 

“เราพัฒนามาถึงจุดนี้ได้เพราะได้รับโอกาสจาก สสส. ทั้งเรื่องเงินทุน และคำแนะนำ ซึ่งตอนนี้สินค้าเราเริ่มวางจำหน่ายแล้ว โดยคนพิการที่ซื้อสินค้าเรา สามารถทำเรื่องเบิกได้ เพราะเราได้ขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องมือแพทย์เรียบร้อยแล้ว”

(อ่านรายละเอียดรางวัลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://shorturl.asia/4ifJq)

ทั้งหมดนี้ คือความสำเร็จของการจัดงาน Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2023 อย่างไรก็ตาม สสส. จะยังคงจัดงานดีๆ เช่นนี้ต่อไป เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ และผลักดันนวัตกรไทย ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดงานครั้งต่อไปได้ที่ https://www.facebook.com/pmhealthpromotioninnoaward

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง